เบิกจ่ายลงทุนภาครัฐ 6 เดือนแรกต่ำเป้า เร่งอีก 5 แสนล้านบาทช่วงครึ่งปีหลัง

สศค. เผยรายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ 6 เดือนแรก ยังต่ำกว่าเป้า ระบุต้องเร่งเบิกจ่ายอีก 5 แสนล้านบาท ช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะ 5 กระทรวงงบลงทุนสูง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผย รายงานสถานการณ์การเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ช่วง 6 เดือนแรก (1 ต.ค. 2567 – 31 มี.ค. 2568) พบว่า อัตราการเบิกจ่ายยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้จำเป็นต้องเร่งรัดการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้การใช้จ่ายภาครัฐเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
โดย ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2568 วงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 9.3 แสนล้านบาท แต่สามารถเบิกจ่ายได้เพียง 2.3 แสนล้านบาท คิดเป็น 26.3% เท่านั้น ซึ่งหากรวมการก่อหนี้ผูกพัน ยอดการใช้จ่ายจะอยู่ที่ 4.4 แสนล้านบาท คิดเป็น 46.7%
ทั้งนี้ ตัวเลขอัตราการเบิกจ่ายจริงที่ 26.3% นี้ ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่กรมบัญชีกลางคาดการณ์ไว้ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2568 ที่ 35.0% อย่างชัดเจน และยังห่างไกลจากเป้าหมายโดยรวมที่ 80% ณ สิ้นสุดปีงบประมาณ
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้จำเป็นต้องมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ (1 เม.ย. - 30 ก.ย. 2568) เป็นอย่างมาก โดยมีวงเงินงบประมาณที่ต้องเบิกจ่ายอีกถึง 5.0 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 53.7% ของวงเงินทั้งหมด เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย 80% ที่ตั้งไว้ได้
แนวทางการเร่งรัดการลงทุนที่สำคัญคือ การผลักดันการเบิกจ่ายงบประมาณใน 5 กระทรวงที่มีวงเงินงบประมาณลงทุนสูง ได้แก่
กระทรวงคมนาคม 1.8 แสนล้านบาท
กระทรวงมหาดไทย 1.0 แสนล้านบาท
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 8.8 หมื่นล้านบาท
กระทรวงกลาโหม 4.2 หมื่นล้านบาท
และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 3.1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ยังควรรวมถึงการเร่งรัดการลงทุนในจังหวัดที่มีวงเงินขนาดใหญ่ เช่น นครราชสีมา, ชลบุรี, สมุทรปราการ, เชียงใหม่ และขอนแก่น
แม้ว่าอัตราการเบิกจ่ายสะสมในช่วง 6 เดือนแรกจะยังต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือน ก.พ. 2568 ที่ขยายตัวถึง 13.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน และรายจ่ายลงทุนในเดือน ก.พ. ที่ขยายตัวสูงถึง 113.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน อาจเป็นสัญญาณที่ดีที่ต้องรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ในช่วงที่เหลือของปี
ทั้งนี้ การเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนภาครัฐในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะในกระทรวงและพื้นที่สำคัญ จะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่ารัฐบาลจะสามารถใช้จ่ายงบประมาณลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ในช่วงครึ่งปีหลัง







