ราคาน้ำมันดิบไต่ขึ้น 1 ดอลลาร์ หลังอิหร่านอาจถูกจำกัดการส่งออก

ราคาน้ำมันดิบไต่ขึ้น 1 ดอลลาร์ หลังอิหร่านอาจถูกจำกัดการส่งออก

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตเพิ่มขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ในวันศุกร์ หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ขู่ อาจยุติการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน

รอยเตอร์ รายงานภาวะน้ำมันดิบตลาดโลกวันศุกร์(11 เม.ย. ) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตเพิ่มขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ในวันศุกร์ หลังจากนายคริส ไรท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ อาจยุติการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะนำอิหร่านเข้าสู่ข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์

  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าปิดตลาดที่ 64.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 2.26%
  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐฯ(WTI) ปิดที่ 61.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 2.38%

แอนดรูว์ ลิโปว์ ประธานบริษัทวิจัย Lipow Oil Associates กล่าวว่า “การบังคับใช้มาตรการจำกัดการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอย่างเข้มงวดจะทำให้อุปทานทั่วโลกลดลง ผมคาดว่าจีนจะยังคงซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไป”

ความคิดเห็นของไรท์ทำให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันผันผวนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากระบบภาษีศุลกากรใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ บังคับให้ผู้ค้าต้องประเมินความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ตลาดน้ำมันดิบต้องเผชิญใหม่

“ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของสหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาด” จอห์น กิลดัฟฟ์ หุ้นส่วนของ Again Capital กล่าว “เราจะมีการปรับเปลี่ยนกระดานหมากรุกเหมือนที่เคยทำหลังจากรัสเซียบุกยูเครน”

จีนขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐอีกรอบ

จีนประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะจัดเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ 125% เริ่มตั้งแต่วันเสาร์นี้ เพิ่มขึ้นจาก 84% ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้ากับจีนเป็น 145% ในวันพฤหัสบดี

ในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ได้หยุดจัดเก็บภาษีนำเข้ากับคู่ค้าส่วนใหญ่ แต่ข้อพิพาทที่ยืดเยื้อระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีแนวโน้มที่จะทำให้ปริมาณการค้าโลกลดลงและขัดขวางเส้นทางการค้า ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกและลดความต้องการใช้น้ำมัน

“แม้ว่าการบังคับใช้ภาษีนำเข้าบางรายการ ยกเว้นภาษีนำเข้าจากจีน จะล่าช้าไป 90 วัน แต่ตลาดก็ได้รับผลกระทบไปแล้ว ทำให้ราคาน้ำมันต้องดิ้นรนเพื่อฟื้นคืนเสถียรภาพ” โอเล แฮนเซน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร Saxo กล่าว

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกเมื่อวันพฤหัสบดี และเตือนว่าภาษีนำเข้าอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อราคาน้ำมัน นอกจากนี้ยังได้ปรับลดการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในสหรัฐฯ และทั่วโลกสำหรับปีนี้และปีหน้าด้วย

ผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันต่อจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก

เตือนภาษีทรัมป์ก่อหายนะต่อเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา

ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าของสหประชาชาติกล่าวว่า ผลกระทบของภาษีนำเข้าอาจเป็น “หายนะ” สำหรับประเทศกำลังพัฒนา

นักวิเคราะห์ของธนาคาร ANZ คาดการณ์ว่าการบริโภคน้ำมันจะลดลง 1% หากการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกลดลงต่ำกว่า 3% แดเนียล ไฮน์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสกล่าว