ราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 3% ผวาสงครามการค้าสหรัฐ - จีนรุนแรงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ และเบรนท์ ร่วงลงกว่า 3% นักลงทุนจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ กับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น สหรัฐขึ้นภาษีสูงถึง 145% หวั่นลดความต้องการใช้น้ำมัน
ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบวันพฤหัสบดี(10 เม.ย.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมา ตามเวลาไทยว่า ราคาน้ำมันดิบสัญญาซื้อขายล่วงหน้าร่วงลงกว่า 3% ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างหนักหน่วง บดบังปัจจัยบวกของการระงับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศเป็นเวลา 90 วัน
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ร่วงลง 2.28 ดอลลาร์ หรือ 3.66% ปิดที่ 60.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของโลกร่วงลง 2.15 ดอลลาร์ หรือ 3.28% ปิดที่ 63.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในวันพุธ หลังจากทรัมป์ประกาศลดอัตราภาษีนำเข้าชั่วคราวลง 10% ให้กับคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาเปิดกว้างต่อการเจรจาข้อตกลงกับประเทศที่ไม่ตอบโต้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) แกว่งขึ้น 13% จากจุดต่ำสุดของวัน ปิดที่ 62.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สหรัฐตั้งกำแพงภาษีจีนสูงถึง 145%
แต่การตัดสินใจของทรัมป์ที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุด เป็น 145% ส่งผลกระทบต่อตลาดในวันพฤหัสบดี
คาดความปั่นป่วนของตลาดยังไม่จบ
จิม เบิร์กฮาร์ด หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดน้ำมันของ S&P Global Commodity Insights กล่าวว่า “ตอนนี้ภาษีนำเข้าจากจีนสูงขึ้น ซึ่งยังถือว่ามีนัยสำคัญมาก การเจรจากับประเทศต่างๆ เหล่านี้ สหรัฐ สามารถเจรจากับ 70 ประเทศพร้อมกันได้หรือไม่ ผมไม่คิดว่าความโกลาหลจะจบลง”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์