เอนเตอร์เทนเมนต์ 'คลองเตย' เป้าหมายแรกปั้นท่าเรือท่องเที่ยว

กทท.เผยคืบหน้าแก้ พรบ.การท่าเรือ คาดเร็วสุด 6 เดือนออกประกาศใช้ ยันเดินหน้าผลักดันเพื่อเป็นเครื่องมือเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ลุยสร้าง "ท่าเทียบเรือสำราญ"
KEY
POINTS
- การท่าเรือฯ เผยคืบหน้าแก้ พรบ.การท่าเรือ คาดเร็วสุด 6 เดือน ได้รับความเห็นชอบออกประกาศใช้
- ระบุเดินหน้าผลักดันเพื่อเป็นเครื่องมือเพิ่มโอกาสสร้างรายได้กิจการที่เกี่ยวกับ หรือเกี่ยวเนื่อง กับกิจการการขนส่งทางเรือ
- ปักธงโปรเจ็กต์แรกสร้าง "ท่าเทียบเรือสำราญ" พัฒนาที่อยู่อาศัยให้ชุมชนโดยรอบ ในรูปแบบ Smart Community ที่พักอาศัยแนวสูง
- ยันไม่ได้แก้ พรบ.เพื่อเปิดช่องพัฒนา "กาสิโน" เป้าหมายแรกโฟกัสพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว
“เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” หรือ สถานบันเทิงครบวงจร เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันเพื่อตั้งเป้าดึงดูดการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการลงทุนภาคบริการและการท่องเที่ยว โดยปัจจุบันเรื่องนี้ได้มีการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และกำลังถูกผลักดันเพื่อเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโหวตวาระแรกในวันที่ 9 เม.ย.นี้
“เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข” ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึง แผนพัฒนาเอนเตอร์เทนเมนต์ ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ของ ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) โดยระบุว่า กทท.มีเป้าหมายพัฒนาท่าเรือคลองเตยให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของกรุงเทพฯ ด้วยจุดแข็งที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเดสติเนชั่นหลักของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลก
โดยในช่วงที่ผ่านมา กทท.ได้จัดทำแผนแม่บท (มาสเตอร์แพลน์) เพื่อพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ท่าเรือคลองเตย เนื้อที่รวม 2,353 ไร่ มุ่งใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าเรือให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใน 3 ด้านหลัก คือ ด้านโลจิสติกส์และเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาเมือง และด้านการพัฒนาชุมชน เพื่อก้าวสู่ Logistics Hub ของภูมิภาค ด้วยหลัก 3 Smart (3S) ประกอบด้วย
1. Smart & Green Port พื้นที่หลักสำหรับปฏิบัติงานของท่าเรือกรุงเทพ ยกระดับให้เป็นท่าเรือที่ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยว โดยมี 3 โครงการสำคัญ คือ
- โครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า (Bangkok Logistics Park)
- โครงพัฒนาท่าเรือกรุงเทพในลักษณะท่าเรืออัตโนมัติ (Terminal 3)
- โครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพกับทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ (S1)
2. Smart Commercial พัฒนาพื้นที่สำหรับโครงการเชิงธุรกิจ อาทิ
- ห้างสรรพสินค้า
- อาคารสำนักงาน Retail Mixed Use
- พัฒนาท่าเทียบเรือสำราญและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว
3. Smart Community พัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบท่าเรือกรุงเทพ สู่ชุมชนในแนวสูง (Smart Community) และศูนย์ฝึกอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนให้มีมาตรฐานและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
“แผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อรองรับกิจการเอนเตอร์เทนเมนต์ การท่าเรือฯ ได้ศึกษามานานแล้ว และไม่ได้โฟกัสพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับเกี่ยวกับสถานบันเทิงประเภทกาสิโนโดยเฉพาะ แต่เป็นการพัฒนาพื้นที่ เพิ่มกิจการเอนเตอร์เทนเมนต์ บริการต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นการเดินทาง การท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า สนับสนุนการขนส่งทางน้ำที่เป็นภารกิจหลักของการท่าเรือฯ”
ทั้งนี้การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ปลดล็อกนำพื้นที่ท่าเรือมาพัฒนากิจการนอกเหนือจากการขนส่งทางน้ำ จำเป็นต้องมีการแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มเครื่องมือให้ กทท.สามารถพัฒนาพื้นที่รองรับกิจการเหล่านี้ โดยปัจจุบัน กทท.อยู่ระหว่างเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าเรือให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เพราะเดิม พรบ.การท่าเรือฯ พ.ศ. 2494 กำหนดให้ทำธุรกิจทางตรงเท่านั้น ทำให้ กทท.สามารถดำเนินกิจการได้เพียงการขนส่งทางเรือ และคลังสินค้า แต่การแก้ไข พรบ.ฉบับใหม่นี้ จะขยายบทบาทของ กทท. ให้สามารถดำเนินกิจการที่เกี่ยวกับ หรือเกี่ยวเนื่อง กับกิจการการขนส่งทางเรือ แต่โครงการเหล่านั้นต้องเป็นประโยชน์ต่อการท่าเรือ
เกรียงไกร กล่าวด้วยว่า เป้าหมายแรกที่ กทท.คาดว่าจะเริ่มพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับเอนเตอร์เทนเมนต์ได้เป็นส่วนแรก คือ การพัฒนาส่วนของ “ท่าเทียบเรือสำราญ” รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว รวมไปถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ชุมชนโดยรอบ ในรูปแบบ Smart Community ที่พักอาศัยแนวสูง และศูนย์ฝึกอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน
“ระหว่างรอแก้ไข พรบ.การท่าเรือ เราก็จัดทำมาสเตอร์แพลนควบคู่ไปด้วย ซึ่งแต่ละโครงการที่จะพัฒนาเน้นย้ำว่าต้องเป็นประโยชน์ต่อการท่าเรือ และประโยชน์ต่อประชาชน ตอนนี้เชื่อว่าเรื่องกาสิโนคงต้องผ่านหลายกระบวนการรับฟังความคิดเห็น คงต้องศึกษารายละเอียดก่อน ดังนั้นมาสเตอร์แพลนท่าเรือคลองเตยตอนนี้โฟกัสพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว”
สำหรับความคืบหน้าของการแก้ไข พรบ.การท่าเรือ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนกรรมาธิการพิจารณากฎหมาย และเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หากผ่านการพิจารณาโหวตเห็นชอบ ต้องรอลงนามราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้ พรบ.การท่าเรือ ฉบับใหม่ เบื้องต้นคาดการณ์ว่ากระบวนการเหล่านี้อย่างเร็วที่สุดน่าจะใช้เวลาราว 6 เดือน







