'เอกนัฏ' ชงถอน BOI ยกเลิก มอก.เหล็ก 'ซินเคอหยวน'

"เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" ชงถอนสิทธิบัตรการสนับสนุนจาก BOI และเดินเรื่องยกเลิก มอก.เหล็ก "ซินเคอหยวน" ลั่น 6 เดือน เดินหน้าปราบทุน 0 เหรียญ ไม่กลัวอำนาจมืด
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการ "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand" วันนี้ (1 เม.ย.2568) ว่า จากการที่ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่กับผู้แทนจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นำเหล็กที่เก็บตัวอย่างมาจากตึก สตง. ถล่มเข้าทำการทดสอบคุณภาพ ณ สถาบันเหล็ก และเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย วันที่ 31 มี.ค.2568 ประกอบด้วยเหล็ก 7 ประเภท ได้แก่
- เหล็กข้ออ้อย 12 มิลลิเมตร
- เหล็กข้ออ้อย 16 มิลลิเมตร
- เหล็กข้ออ้อย 20 มิลลิเมตร
- เหล็กข้ออ้อย 25 มิลลิเมตร
- เหล็กข้ออ้อย 32 มิลลิเมตร
- เหล็กกลม ขนาด 9 มิลลิเมตร
- ลวดสลิง ขนาด 15.2 มิลลิเมตร
ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบคุณภาพตัวอย่างเหล็กที่เก็บมาจากบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ทำการตรวจสอบโดยเริ่มจากการตัดชิ้นส่วนเหล็กทุกขนาดเพื่อนำไปตรวจมวลต่อเมตรหามวลจริงของเหล็ก และส่งเหล็กไปตีให้แบน และนำไปตรวจทางเคมี เพื่อตรวจสอบส่วนประกอบของเหล็ก อาทิ คาร์บอน โบรอน ซิลิกอน ว่าอยู่ในส่วนประกอบที่เหมาะสมหรือไม่ และเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. หรือไม่ โดยใช้เวลาทดสอบรวมกว่า 4 ชั่วโมง
สำหรับผลจากการทดสอบพบว่า ชิ้นส่วนเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานคือ เหล็กข้ออ้อยขนาด 20 มิลลิเมตร มีมวลน้ำหนักเหล็กเบากว่ามาตรฐาน และเหล็กข้ออ้อยขนาด 32 มิลลิเมตร ไม่ได้มาตรฐานค่าความสามารถในการต้านแรงดึง
นายเอกนัฏ ตอบคำถามเกี่ยวกับเหล็กยี่ห้อ SKY (ซินเคอหยวน) ซึ่งพบว่าเป็นยี่ห้อที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ถือเป็นโรงงานผลิตเหล็กเส้นข้ออ้อย โดยก่อนหน้านี้ช่วงปลายปีที่ผ่านมา นายเอกนัฏ ได้ส่งทีมชุดตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ซิน เคอ หยวน สตีล ที่ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้พบข้อบกพร่องทั้งด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อมหลายจุด โดยเฉพาะด้านการผลิตเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จึงได้ยึดอายัดเหล็กไว้ทั้งหมด พร้อมเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบ
ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบช่วงเดือนม.ค.2568 พบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ตกเกณฑ์ที่สำคัญที่ส่งผลโดยตรงกับความแข็งแรงของเหล็ก จึงมอบหมายให้ชุดตรวจการสุดซอย เข้าแจ้งผลต่อบริษัท พร้อมยึดอายัดเหล็กไม่ได้มาตรฐานดังกล่าว จำนวน 2,441 ตัน มูลค่าราว 49.2 ล้านบาท และให้ดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้วนั้น
นายเอกนัฏ กล่าวว่า ซินเคอหยวนทำมาค้าขายมานาน อีกทั้งยังได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ด้วย ซึ่งตลอดการทำงานในหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 6 เดือน ที่มีการตั้งค่าหัวยืนยันว่าไม่กลัว โดยภารกิจสำคัญคือ การปราบทุน 0 เหรียญ ที่มีภาษีเป็น 0 สิ่งสำคัญจะต้องผลักดันให้ธุรกิจไทยเติบโต ซึ่งเหล็กชนิดแบบนี้นักธุรกิจไทยสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะ รมต.อุตสาหกรรม เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ (บอร์ดบีโอไอ) จึงมองว่าเห็นสมควรที่จะถอนสิทธิบัตรหรือสิทธิประโยชน์ในการสนับสนุนการลงทุนออกจากบีโอไอ แน่นอนว่าจะต้องมีคณะกรรมการบีโอไอพิจารณา ดังนั้น ในด้านของคดีความก็ต้องดำเนินไป
"ผมเข้าไปตรวจตอนโรงงานซินเคอหยวนเกิดไฟไหม้ และให้หยุดเมื่อเดือนธ.ค.2567 และอาศัยอำนาจของกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ ให้หยุดกิจการ และต่อเมื่อเมื่อตรวจพบว่าเหล็กที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานก็สั่งปิด ดังนั้น ในวัน - 2 วันนี้ จะเข้าไปตรวจสอบโรงงานซินเคอหยวนอีก หากพบว่าเหล็กที่อายัดไว้นำมาขายแม้แต่เส้นเดียวจะมีโทษเพิ่มทันที แต่ต้องขอยืนยันว่าเหล็กที่สั่งยึดไว้คนละเรื่องกับที่บอกว่าเอาของกลางมาสร้างตึก สตง. เพราะตึกมีการสร้างมาก่อนที่สั่งปิดนานแล้ว" นายเอกนัฏ กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของการเพิกถอน มอก. ต้องเป็นไปตามกระบวนการ ที่ดำเนินการเหมือนกันทุกราย เมื่อเจอตกมาตรฐานก็ต้องอายัด และเก็บในขั้นตอนแรก ปกติตามขั้นตอนจะให้โอกาสธุรกิจ ไม่เช่นนั้นหากเจอแล้วปิดเลยก็จะเสี่ยงโดนฟ้องได้ แต่เมื่อให้โอกาสแล้วยังนำเหล็กที่ตกมาตรฐานมาใช้อีกก็ต้องดำเนินคดี ส่วนตัวถ้าตกมาตรฐานขนาดนี้ต้องเดินหน้าเพิกถอน มอก. และจะต้องเก็บข้อมูลให้ดี และรอบคอบ
"ที่ผ่านมา และในช่วงวัน 2 วันนี้ มีคนโทรศัพท์มาเสนอผลประโยชน์ต่างๆ มากมาย แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นรายไหน ยืนยันว่าไม่กลัว" นายเอกนัฏ กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







