ศึกษิษฏ์ ชี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯเสร็จปีนี้ เผยรายใหญ่จ่อลงทุน

ศึกษิษฏ์ ชี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯเสร็จปีนี้ เผยรายใหญ่จ่อลงทุน

“ศึกษิษฏ์” มั่นใจกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เสร็จทันปีนี้ เปิดกลไกบริหารเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอร์ดนโยบายกำหนดทิศทางอัตรภาษี

KEY

POINTS

  • “ศึกษิษฏ์” มั่นใจกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เสร็จทันปีนี้
  • เปิดกลไกบริหารเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอร์ดนโยบายกำหนดทิศทางอัตรภาษี
  • ผลตอบแทนจากโครงการฯ ให้อำนาจคกก.บริหารเร่งไลน์เซ่นกิจการในพื้นที่ให้เกิดการลงทุนเร็วขึ้น
  • เล็งโมเดลสิงคโปร์ห้ามนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง เข้าเล่นในกาสิโน

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานเสวนากรุงเทพธุรกิจ Roundtable หัวข้อ Entertainment Complex Game Changer for Thailand ว่ากฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเข้าสู่การประชุม ครม.เร็วๆนี้หลังจากที่มีการแก้ไขและปรับปรุงร่างกฎหมายในชั้นของคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้กฎหมายมีการรัดกุมมากขึ้นโดยส่วนของสาระสำคัญที่มีการเพิ่มขึ้นมาในชั้นนี้ เช่น การกำหนดพื้นที่กาสิโน 10% การกำหนดรายได้ของคนไทยที่จะสามารถเข้าไปเล่นกาสิโนได้ต้องมีเงินในบัญชีไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท

การกำหนดพื้นที่ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ให้เป็นพื้นที่ในการจัดแสดงศิลปะวัฒนธรรม 10% การห้ามโฆษณา เป็นต้น

โดยหลังจากผ่าน ครม.แล้วรายละเอียดต่างๆจะมีการไปหารือปรับแก้กันในชั้นของกรรมาธิการซึ่งถือเป็นตัวแทนของภาคประชาชนและรัฐบาลที่จะทำงานร่วมกันเพื่อให้กฎหมายออกมาตอบโจทย์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากที่สุด ซึ่งคาดว่าขั้นตอนการจัดทำข้อกฎหมายที่จะออกมาเป็น พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ซึ่งขณะนี้นักลงทุนรายใหญ่ที่มีการลงทุนลักษณะนี้ในระดับโลกสนใจที่จะมาลงทุนในไทย 

สำหรับกลไกในการบริหารและกำกับดูแลเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะให้อำนาจกับคณะกรรมการใน 2 ระดับ ส่วนแรกจะเป็นคณะกรรมการนโยบายซึ่งมีหน้าที่ และอำนาจในการกำหนดนโยบายของสถานบันเทิงครบวงจร การกำหนดอัตราภาษีที่จะมีการเก็บจากผู้ประกอบการ

ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานบันเทิงครบวงจร รวมทั้งกำหนดจำนวนใบอนุญาต และพื้นที่การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร รวมทั้งการขออนุญาตและเลิกประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ประเภทกิจการที่อาจดำเนินการได้ในสถานบันเทิง เป็นต้น

นอกจากนี้กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารโดยมีผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการสถานบันเทิงครบวงจรที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธาน โดยคณะกรรมการบริหารนี้จะมีอำนาจหน้าที่หลายอย่าง โดยที่สำคัญคือการทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกในการรวบรวมใบอนุญาต (ไลน์เซ่น) ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะในลักษณะของการลงทุนของผู้ที่ได้ไลน์เซ่นจะมีการลงทุนในธุรกิจที่เป็นกาสิโนก่อนสำนักงานฯจะทำหน้าที่ในการเร่งรัดการออกใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องของกิจการอื่นๆเช่น โรงแรม ร้านอาหาร และกิจการที่เกี่ยวข้องที่ต้องการมาลงทุน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน ขณะเดียวกันสำนักงานจะทำหน้าที่ในการควบคุมแผนเยียวยาสังคมและประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการเกิดขึ้นของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ซึ่งจะทำหน้าที่ในส่วนนี้โดยไม่ต้องมีการตั้งหน่วยงานราชการใหม่ขึ้นมาดำเนินการ 

ศึกษิษฏ์ ชี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯเสร็จปีนี้ เผยรายใหญ่จ่อลงทุน

ส่วนการกำหนดบุคคลที่เข้าไปเล่นในกาสิโน สามารถจะกำหนดเพิ่มได้เช่นไม่ให้คนที่เข้าไปเล่นเป็นบุคคลในครอบครัว หรือบางอาชีพเช่น นักการเมือง และข้าราชการระดับสูง เข้าไปเล่นในกาสิโนซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่สิงคโปร์ดำเนินการ

“รูปแบบของสิงคโปร์มีการกำหนดไม่ให้บุคคลบางอาชีพเข้าไปเล่นในกาสิโน เช่น นักการเมือง และข้าราชการระดับสูง ในไทยเมื่อเราทำกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เราอาจกำหนดกฎหมายในลักษณะนี้สำหรับในประเทศไทยเช่นกัน”

สำหรับในส่วนของการกำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ประกอบการมาลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คณะกรรมการนโยบายฯได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ 5 ข้อ ได้แก่

1.มูลค่าการลงทุน

2.แผนงานในการจ้างงาน และพัฒนาทักษะแรงงานให้คนไทย

3.กิจการลงทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนันซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นข้อเสนอที่คณะกรรมการจะพิจารณาจากข้อเสนอตามที่เราต้องการให้เกิดการลงทุน เช่น สนามกีฬาขนาดใหญ่ คอนเสิร์ตฮอลล์ พิพิธภัณฑ์ระดับโลก ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ เป็นต้น

4.แผนการเยียวยา แก้ปัญหาผลกระทบจากสังคม และ 5.มูลค่าใบอนุญาตที่จะมีการเสนอราคาให้กับรัฐบาล

“การทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะมีรายได้เข้ามามากจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่ใช่การพนัน (non gambling)โดยในการคำนวณตัวเลขทางเศรษฐกิจ ที่กำหนดให้มีการลงทุนแห่งละแสนล้าน รัฐบาลคิดในเรื่องของมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มลงทุน ทั้งในเรื่องเม็ดเงินและเรื่องการจ้างงาน”นายศึกษิษฏ์ กล่าว


ทั้งนี้ในส่วนของเหตุผลที่ร่าง พ.ร.บ. มีลักษณะเป็นกรอบกว้างๆ โดยไม่ระบุรายละเอียดมากเกินไป ว่าเป็นเพราะข้อจำกัดของกระบวนการแก้ไขกฎหมายในประเทศไทยที่ใช้เวลานาน การแก้ไขกฎหมายในประเทศไทย แม้แต่เพียงมาตราเดียวอาจใช้เวลาถึง 3 ปี ในขณะที่ประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ สามารถแก้ไขกฎหมายได้ภายใน 3 เดือน ดังนั้น เราจึงกำหนดเป็นกรอบกว้างๆ และให้อำนาจคณะกรรมการนโยบายในการกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนประเด็นเรื่องการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการพนัน นายศึกษิษฏ์ได้ชี้แจงว่า มีข้อจำกัดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังที่ไม่สามารถจัดตั้งกองทุนใหม่ได้หากมีกองทุนที่ทำหน้าที่คล้ายกันอยู่แล้ว อาทิ สสส. จึงใช้แนวทางให้สำนักงานเป็นผู้บริหารจัดการเงินและกระจายไปยังหน่วยงานหรือโครงการต่างๆ ที่มีความเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาการพนัน การพัฒนาการศึกษา สาธารณสุข หรือโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากกว่าการตั้งกองทุนเฉพาะ

เกี่ยวกับข้อกังวลเรื่องการเลือกพื้นที่ตั้งของโครงการ นายศึกษิษฏ์ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดจังหวัดที่แน่ชัด โดยจะต้องมีกฎหมายออกมาก่อนเพื่อให้อำนาจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการศึกษาและเสนอพื้นที่ที่เหมาะสม

ทั้งนี้พื้นที่ที่จะเลือกต้องมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่ง ต้องมีความสะดวกในการเดินทาง และควรอยู่ในทำเลที่สามารถกระจายผลประโยชน์ให้กับธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบด้วย