มกอช.เร่งมาตรฐานสินค้าเกษตร-อาหาร ยกระดับรายได้เกษตรกร

มกอช.เร่งมาตรฐานสินค้าเกษตร-อาหาร ยกระดับรายได้เกษตรกร

เพื่อยกระดับการแข่งขันสินค้าเกษตรของไทยในเวทีโลก มกอช.จึงกำหนด ตรวจสอบรับรองควบคุมและส่งเสริมมาตรฐานสินค้าเกษตรตั้งแต่ระดับไร่นาจนถึงผู้บริโภค

นายชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.)  เปิดเผยว่า มาตรฐานจะเป็นเครื่องมือในการควบคุมและส่งเสริมสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพ สอดรับกับมาตรฐานสากล ปัจจุบันมาตรฐานที่ มกอช.กำหนดออกมาใช้ แบ่งเป็นมาตรฐานบังคับ ที่บังคับให้ปฏิบัติผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม  และมาตรฐานทั่วไป ซึ่งผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการเลือกที่จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ ในกรณีที่ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐานจะได้รับรองเครื่องหมาย Qใช้ติดบนฉากได้   ปัจจุบัน ได้มีการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร  กว่า 471 เรื่อง  ส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานทั่วไป และมาตรฐานบังคับ 10 เรื่อง

มกอช.เร่งมาตรฐานสินค้าเกษตร-อาหาร ยกระดับรายได้เกษตรกร

 การพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารจะสอดคล้องกับระบบพัฒนาสินค้าเกษตรของไทย  ที่ยึดหลัก 3 s เพื่อเป็นกรอบการสร้างมาตรฐาน ประกอบด้วย 1. Safety  หมายถึงกระบวนการผลิตที่มีความปลอดภัยทางด้านอาหาร ตั้งแต่ระดับฟาร์ม ต้องมีมาตรฐานGAP มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ต่อเนื่องไปยังกระบวนการแปรรูปคัดบรรจุ ต้องได้มาตรฐานมาตรฐานGMP  

2. Security หมายถึง ความมั่นคงทางด้านอาหารเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารที่พอเพียงปลอดภัยเชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ากับแหล่งจำหน่ายหรือแหล่งกระจายสินค้า และยกระดับการผลิตของภาคการเกษตรและการแปรรูปไปสู่การผลิตที่มีมูลค่าสูงรวมถึงการพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานสินค้าใหม่ เช่น plant base food แมลงเศรษฐกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและตลาดโลกยุคใหม่

มกอช.เร่งมาตรฐานสินค้าเกษตร-อาหาร ยกระดับรายได้เกษตรกร

3.Sustainable  คือระบบการทำการเกษตรที่ยั่งยืน ระบบการผลิต การแปรรูป การจัดจำหน่าย โดยจัดทำมาตรฐานการผลิตอย่างยั่งยืนการพัฒนางานด้านมาตรฐานตามหลัก BCG โมเดลซึ่งสร้างความสมดุลและความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ สังคม  สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ที่ก่อให้เกิดการยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ เพื่อขับเคลื่อนภาคการเกษตรตลอดห่วงโซ่คุณค่าให้เติบโตโดยการยกระดับกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรด้วยมาตรฐานตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง 

ทั้งนี้ มาตรฐานที่กำหนดขึ้นนั้นต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ความต้องการของผู้บริโภค ความต้องการของตลาด ตามความเสี่ยง ทั้งโรคสัตว์พืช และประมง การใช้ยารักษาโรคเพิื่อกำหนดจุดความปลอดภัย รวมทั้งการประเมินความเสี่ยงใหม่ๆที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังต้องปรับปรุงมาตรฐานตามจุดแข็งและโอกาสของไทย เช่นการห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง(เบต้าอะโกนิสต์)ที่กระบวนการเลี้ยงสุกรของไทยมีเปอร์เซนต์การใช้เป็น 0 % สูงกว่าข้อกำหนดของมาตรฐาน Codex ภายใต้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)ตามความเสี่ยง ทั้งโรคสัตว์พืช และประมง การใช้ยารักษาโรคเพิื่อกำหนดจุดความปลอดภัย รวมทั้งการประเมินความเสี่ยงใหม่ๆที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ยังต้องปรับปรุงมาตรฐานตามจุดแข็งและโอกาสของไทย เช่นการห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง(เบต้าอะโกนิสต์)ที่กระบวนการเลี้ยงสุกรของไทยมีเปอร์เซนต์การใช้เป็น 0 % สูงกว่าข้อกำหนดของมาตรฐาน Codex ภายใต้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)

“แนวโน้มการกำหนดมาตรฐานปัจจุบันทั่วโลกให้ความใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนที่สร้างผล กระทบต่อธรรมชาติเร็ว เกิดภัยพิบัติที่ยากจะคาดเดาแต่เร็วและรุนแรง หลายประเทศใช้เรื่องนี้เป็นข้อกีดกันทางการค้า การกำหนดมาตรฐานจึงต้องไปในทิศทางนี้ เพื่อปูทางให้เกษตรกรเพิ่มความเข้มข้นกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เหนือกว่ามาตรฐาน ร่วมมือกับภาคเอกชนสร้างความเชื่อมั่น สร้างโอกาสทางการตลาด”

มกอช.เร่งมาตรฐานสินค้าเกษตร-อาหาร ยกระดับรายได้เกษตรกร

ทั้งนี้มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนที่ทำอยู่ คือ  มาตรฐานข้าวยั่งยืน เป็นมาตรฐานที่กำหนดวัตถุประสงค์และข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดการฟาร์มการ เตรียมการปลูก  ไม่ผาตอซัง ใช้น้ำน้อย การจัดธาตุอาหาร การจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน การเก็บเกี่ยวและการปฎิบัติหลังการเก็บเกี่ยว สุขภาพและความปลอดภัยของบุคลากร สิทธิแรงงานในฟาร์ม การแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นสินค้าข้าว และการแสดงฉลากและการกล่าวอ้างของข้าวเปลือก และสินค้าข้าวเพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านอาหารและการพัฒนาการผลิตข้าวที่ยั่งยืน มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ครอบคลุมข้าวเปลือกและสินค้าข้าวประเภทข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องและข้าวขาว ที่ได้จากระบบการผลิตข้าวยั่งยืน

มกอช.เร่งมาตรฐานสินค้าเกษตร-อาหาร ยกระดับรายได้เกษตรกร

มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับอ้อยโรงงาน (GAP)การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับอ้อยโรงงาน (GAP)  กำหนดข้อปฏิบัติ เช่น  ต้องใช้น้ำที่มาจากแหล่งที่ไม่เกิดการปนเปื้อนวัตถุหรือสิ่งที่เป็นอันตรายต่อการผลิต พื้นที่ในการผลิตต้องถูกต้องตามกฏหมาย การเตรียมดินต้องถูกต้องและเหมาะสมไม่เผาก่อนและหลังเก็บเกี่ยว ใช้ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำอย่างเหมาะสมเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีมีอายุเหมาะสม มีคุณภาพตามความต้องการของตลาด เป็นต้น 

มาตรฐานสินค้าเกษตรการปฎิบัติที่ดี(GAP)หลังการเก็บเกี่ยวสำหรับข้าวโพดเมล็ดแห้ง ครอบคลุมการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวตั้งแต่การกระเทาะเมล็ดการสีข้าวโพดการลดความชื้นการบรรจุการเก็บรักษาและการส่งมอบ ทั้งนี้เพราะข้าวโพดเมล็ดแห้งหรือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย เนื่องจากเป็นวัตถุดิบสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารสัตว์ การผลิตข้าวโพดที่มีคุณภาพปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ

มกอช.เร่งมาตรฐานสินค้าเกษตร-อาหาร ยกระดับรายได้เกษตรกร

นอกจากนี้ ในส่วนของข้าวโพดเมล็ดแห้ง กรมวิชาการเกษตรยังมีประกาศเรื่องหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการขอรับรองกระบวนการผลิตเพื่อควบคุมการเผาในขั้นตอนการผลิตบนพื้นที่ที่ได้รับการรับรองGAP ส่วนหนึ่งเพื่อลดปัญหาฝุ่นPM2.5 

“ตอนนี้ทุกคนต้องตระหนักรู้ เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งเรื่องไม่เผา สร้างกระบวนการผลิตโดยลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมกอช.กำหนดเป็นมาตรฐานเพื่อใช้ในการผลิตสินค้า 5 ชนิดแล้วคือ มะพร้าว ข้าว กุ้ง สับปะรด และข้าวโพดหวาน ผ่านโครงการแปลงใหญ่เพื่อให้ง่ายต่อการส่งเสริม ทั้งการใช้น้ำน้อย การใช้ไฟฟ้าในฟาร์มกุ้งต้องมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้นโดยเกษตรกรต้องจดบันทึก ทุกขั้นตอนการผลิต แล้วนำมาคำนวนการปลดปล่อยคาร์บอน พิจารณาและหาแนวทางเพื่อจะลดการปลดปล่อยให้ได้ ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มที่ใช้ไปปฏิบัติพอสมควร และคนกลุ่มนี้จะมีความเข้มแข็งก่อนใคร”

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่าเพื่อตอบรับกระแสคนรักสุขภาพ มกอช. ในขณะที่ประเทศไทยสามารถผลิตสินค้าที่หลากหลายโดยเฉพาะพืชสมุนไพร ที่เป็นเทรนมาแรงสำหรับอาหารแห่งอนาคต มกอช.จึงกำหนดมาตรฐานเพื่อรองรับ ซึ่งแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ  1.  อาหารฟังก์ชันและสารประกอบเชิงฟังก์ชัน - GAP และเกษตรอินทรีย์ สำหรับเป็นวัตถุดิบปลอดภัย โดยมีมาตรฐาน GAP ฟาร์มผึ้งชันโรง พืชอาหาร   สมุนไพร  ผึ้งอินทรีย์ 

มาตรฐานสินค้าเพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับสารสกัด เช่นมาตรฐานน้ำผึ้งชันโรง มาตรฐานพืชสมุนไพรอบแห้ง ส่วนหัว ราก ใบ ส่วนเหนือดิน ดอก เมล็ด เปลือกและเนื้อไม้ ขมิ้นชัน และน้ำผึ้ง

2.อาหารทางการแพทย์ อาหารเฉพาะบุคคล ดำเนินการโดยองค์การอาหารและยา ซึ่งกระทรวงเกษตรเป็นส่วนในการผลิตวัตถุดิบปลอดภัย  3. โปรตีนทางเลือก กำหนดให้มีีมาตรฐานจิ้งหรีดแห้ง จิ้งหรีดแช่แข็ง และถั่วเหลืองเมล็ดแห้ง และผลผลิตGAPและเกษตรอินทรีย์สำหรับเป็นวัตถุดิบปลอดภัย  กำหนดให้มีมาตรฐานฟาร์มผำเพื่อเป็นอาหาร ฟาร์มผำเพื่อเป็นอาหารสัตว์ และ4.เกษตรอินทรีย์ ได้กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่องเกษตรอินทรีย์ การผลิตการแปรรูป การแสดงฉลากและการจำหน่ายผลผลิต และผลิตผลิตภัณฑ์อินทรีย์ 

ปัจจุบันมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารที่มกอช.กำหนดขึ้นถือว่ามีความเข้มแข็งและเป็นทิศทางที่ดีสะท้อนมายังรายได้ ความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกรในอนาคต