พาณิชย์ สอบต่างชาติถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร  เสี่ยง ผิด กม.

พาณิชย์ สอบต่างชาติถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร  เสี่ยง ผิด กม.

พาณิชย์ ลุยสอบต่างชาติถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร  เสี่ยง ผิด กม.ต่างด้าว พร้อมใช้กม.แข่งขันการค้าคุมสินค้าไร้คุณภาพเข้าไทย

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ว่า ที่ประชุมได้เร่งรัดการป้องกันและปราบปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าวและแก้ไขปัญหาสินค้าไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ โดยเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายมีร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจตามกฎหมายร่วมด้วยกว่า 20 หน่วยงาน  เพื่อให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ

ส่วนกรณีที่ชาวต่างชาติถือครองที่ดิน และแอบมาทำการเกษตร ซึ่งเสี่ยงผิดกม.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และกฏหมายที่ดิน ซึ่งพบว่ามีการร้องเรียนจำนวนมากในภาคตะวันออก เช่น ระยอง จันทบุรี ชลบุรี ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาปลูกทุเรียน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และได้ขอความร่วมมือ กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เร่งหาข้อเท็จจริง  พร้อมให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเข้าไปตรวจสอบอย่างเข้มข้น ในเรื่องการถือหุ้น การจดทะเบียนนิติบุคคล ว่า เข้าข่ายทำผิดเป็นนอมินีหรือไม่ ตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 ที่ห้ามไม่ให้คนต่างด้าวประกอบอาชีพทำสวน ทำนา ทำไร่

สำหรับความคืบหน้ามาตรการที่ดำเนินมาถึงปัจจุบัน โดยคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าวและคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาสินค้าไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ประกอบด้วยหลายหน่วยงาน อาทิ  กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ กรมศุลกากร กรมการค้าต่างประเทศ  สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)  เป็นต้น   ได้รายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้า

โดยตั้งแต่เดือนก.ย..67 –ก.พ.68 โดยได้ดำเนินการ 1.จัดเก็บภาษี VAT ได้ 1,500 ล้านบาท จากสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท  2.ดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมาย 24,626 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,257.24 ล้านบาท 3.ลดการนำเข้าสินค้าผ่าน e-Commerce ลง 8% เฉลี่ยเดือนละ 3,645 ล้านบาท และ 4.กวาดล้างธุรกิจนอมินี 851 ราย มูลค่าความเสียหาย 15,121 ล้านบาท

นอกจากนี้จะใช้กลไกกฎหมายการแข่งขันทางการค้า ในการแก้ไขปัญหาการทะลักของสินค้าและบริการต่างประเทศ โดยร่วมกับสำนักงานการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เข้ามาดูแลสินค้าที่ไม่มีมาตราฐานและการทุ่มตลาดมาจำหน่ายในประเทศ เช่น ใช้อำนาจเหนือตลาด มีพฤติกรรมทำการค้าไม่เป็นธรรม การขายสินค้าต่ำว่าทุน การกีดกันผู้ประกอบธุรกิจการรายอื่น

“รัฐบาลมุ่งมั่นปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย และธุรกิจนอมินี เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อปกป้องเศรษฐกิจและผู้บริโภคไทย และขอประชาสัมพันธ์ถ้าใครเห็นว่ามีบริษัทไหนที่ต้องการร้องเรียนปัญหาเรื่องนอมินีให้ติดต่อมาที่เบอร์สายด่วนกระทรวงพาณิชย์ 1570 หรือเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เราจะเข้าไปตรวจสอบโดยเร็ว ซึ่งล่าสุดได้รับข้อร้องเรียนในการปลูกทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรีโดยชาวต่างชาติ เราจะเร่งเข้าไปตรวจสอบและจะขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทยให้ตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากขึ้น” นายพิชัยกล่าว

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า  คณะกรรมการฯ มีมติ แต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีหน้าที่ดำเนินการใน 2 ด้านหลัก ได้แก่ การควบคุมสินค้านำเข้า และการตรวจสอบธุรกิจนอมินีของคนต่างด้าว โดยจะดำเนินการควบคุมสินค้านำเข้า เพิ่มการตรวจสอบสินค้าที่เข้าสู่ประเทศไทยจากเดิม 20% เป็น 30% ตรวจสอบแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น อย. และ มอก. และสินค้าคุณภาพต่ำบางส่วนไม่ได้ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่กระจายอยู่ในตลาดทั่วไปต้องเพิ่มการตรวจสอบออฟไลน์ให้ครอบคลุม

สำหรับการตรวจสอบธุรกิจนอมินีของคนต่างด้าว จะเน้นตรวจสอบเอกสารการถือหุ้นและรูปแบบการดำเนินธุรกิจของชาวต่างชาติ ที่บางกรณีพบว่าธุรกิจของชาวต่างชาติอาจจดทะเบียนในชื่อคนไทยทั้งหมด ทำให้ตรวจสอบได้ยาก และบางธุรกิจจดทะเบียนในจังหวัดหนึ่งแต่ดำเนินการจริงในอีกจังหวัด ซึ่งต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

รวมไปถึงธุรกิจบางประเภทเข้าข่ายเป็นธุรกิจต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ทำให้คณะทำงานชุดนี้จะต้องลงพื้นที่ตรวจสอบทั้ง สินค้านำเข้าและธุรกิจนอมินี ควบคู่กันโดยทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เพื่อให้การตรวจสอบครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด