ราคาน้ำมันดิบ ลดลง ตลาดกังวลผลกระทบจากสงครามภาษีศุลกากร

ราคาน้ำมันดิบ ลดลง ตลาดกังวลผลกระทบจากสงครามภาษีศุลกากร

ราคาน้ำมันดิบลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันอังคาร จากความกังวลมาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน จะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง กระทบตลาดพลังงาน

รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกวันอังคาร (11มี.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ล่วงหน้าลดลง 29 เซ็นต์ หรือ 0.42% เหลือ 68.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 00.16 น.ตามเวลามาตรฐานสากลกรีนิช ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (ราคาน้ำมัน WTI) ล่วงหน้าลดลง 36 เซ็นต์ หรือ 0.55% เหลือ 65.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบ ลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในช่วงเช้าของวันอังคาร เนื่องมาจากความกังวลว่ามาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน จะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง และส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงาน ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มปริมาณการผลิต

นโยบายกีดกันการค้า ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลก โดยทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าและเลื่อนการขึ้นภาษีกับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ขณะเดียวกันก็ขึ้นภาษีสินค้าจีนด้วย โดยจีนและแคนาดาตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีเช่นกัน

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเข้าสู่ “ช่วงเปลี่ยนผ่าน” แต่ปฏิเสธที่จะคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีของเขาในตลาดหุ้น

“ความเห็นของทรัมป์กระตุ้นให้เกิดการเทขายหุ้นจำนวนมาก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคาดการณ์ความเสี่ยงการเติบโตของอุปสงค์ที่จะอ่อนแอลง” แดเนียล ไฮน์ส นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของธนาคาร ANZ กล่าว

ตลาดหุ้นซึ่งราคาน้ำมันดิบมักจะเคลื่อนไหวตาม ร่วงลงรุนแรงในวันจันทร์ โดยดัชนีหลักทั้งสามของสหรัฐฯ ร่วงลงลึก ดัชนี S&P 500 ร่วงลงมากที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม และ ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 4.0% ซึ่งเป็นการร่วงลงในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022

ฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทรัมป์จะไม่ลดแรงกดดันด้านภาษีศุลกากรต่อเม็กซิโก แคนาดา และจีน

ในด้านอุปทาน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ โนวัค กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่ากลุ่มโอเปกพลัส ตกลงที่จะเริ่มเพิ่มการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนเมษายน แต่สามารถกลับคำตัดสินใจในภายหลังได้ หากตลาดไม่สมดุล

ในสหรัฐฯ คาดว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินมีแนวโน้มลดลง ตามผลสำรวจเบื้องต้นของรอยเตอร์สเมื่อวันจันทร์

การสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นก่อนรายงานประจำสัปดาห์จากกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในเวลา 16.30 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (20.30 GMT) ในวันอังคาร และสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานสถิติของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ในเวลา 10.30 น.  (14.30 GMT) ในวันพุธ