รัฐบาลเร่งเครื่อง 12 โปรเจกต์ใหม่ หนุนเป้าเศรษฐกิจปี 68 โตเกิน 3%

รัฐบาลเร่งเครื่อง 12 โปรเจกต์ใหม่  หนุนเป้าเศรษฐกิจปี 68 โตเกิน 3%

รัฐบาลกางแผนดัน 12 โครงการใหม่ ปั๊ม GDP ประคองเศรษฐกิจไทยปี 2568 ตั้งเป้าหมายต้องโตเกิน 3% ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งกระตุ้นบริโภค แจกเงินหมื่น เร่งรัดการลงทุน

KEY

POINTS

  • รัฐบาลกางแผนดัน 12 โครงการใหม่ ปั๊ม GDP เศรษฐกิจไทยปี 2568 ตั้งเป้าหมายต้องโตเกิน 3%
  • มาตรการครอบคลุมทุกด้าน ทั้งกระตุ้นบริโภค แจกเงินหมื่น เร่งรัดการลงทุน ขับเคลื่อนการจ่ายภาครัฐผ่านออกสินเชื่อ
  • เร่งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟ-แลนด์บริดจ์ รวมทั้งเร่งรัดการส่งออกและท่องเที่ยว

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยตัวเลขจีดีพีในปี 2567 ที่ผ่านมาขยายตัว 2.5% เพิ่มจาก 1.9% ในปีก่อน แต่การเติบโตยังไม่เข้าสู่ระดับศักยภาพ รัฐบาลมีการตั้งเป้าให้เศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวได้เกิน 3% ซึ่งในการคณะกรรมการนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานล่าสุดได้มีการจัดทำแผนในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเพื่อให้เศรษฐกิจไทยโตได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ 

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้วางแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย เพื่อผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเกินกว่า 3% ผ่านการขับเคลื่อนผ่าน 46 โครงการ ตลอดทั้งปี 2568 โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2-3 เพื่อให้เป็นแรงส่งไปถึงไตรมาสที่ 4 และในช่วงปีหน้า 

 

โดยแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ลงในรายละเอียดของ 4 แผนงานทั้งการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ และการส่งออกสินค้า และบริการแบ่งเป็น 

1.การบริโภคภาคเอกชน แบ่งเป็นการใช้เงินงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.3 หมื่นล้านบาท กระตุ้นจีดีพีได้ 0.08% และการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งการปล่อยสินเชื่อทุก 5 หมื่นล้านบาท จะทำให้จีดีพีโต 0.1%  

2.การลงทุนภาคเอกชน ได้แก่ โครงการลงทุนที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2567 ปัจจุบันมีการลงทุนแล้ว 38% หากลงทุนได้จริงอีก 5 หมื่นล้าน จะดันจีดีพีได้ 0.13% ส่วนการปล่อยสินเชื่อให้ภาคเอกชนลงทุน ทุกๆ 5 หมื่นล้านบาท ทำให้จีดีพีโตเพิ่ม 0.1% 

3.การใช้จ่ายภาครัฐ โดยหากสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนรายจ่ายลงทุนให้ได้ 80% จะเพิ่มจีดีพี 0.11% ส่วนงบลงทุนที่อยู่ในรายจ่ายประจำอีกกว่า 2.3 แสนล้านบาท จะเพิ่มจีดีพีได้ประมาณ 0.11% 

4.แผนการส่งออกสินค้าและบริการ หากสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวได้อีก 5 แสนคน จากเป้าหมายเดิม 38.5 ล้านคน จะเพิ่มจีดีพีได้อีกประมาณ 0.15% 

เตรียม 12 โครงการใหม่ดันจีดีพี  

ทั้งนี้ในจำนวนโครงการที่จะผลักดันทั้งหมดนี้ จะมีโครงการใหม่ที่รัฐบาลเตรียมผลักดันออกมาอีกอย่างน้อย 12 โครงการ

สำหรับโครงการใหม่ 12 โครงการที่รัฐบาลเตรียมผลักดันออกมาในปีนี้ ล่าสุดได้มีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งล่าสุดที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาแล้วแยกเป็นด้านชัดเจน โดยเฉพาะการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นกลุ่มมาตรการที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายผลักดันโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายต่อเนื่อง 

รวมทั้งยังเร่งกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน ควบคู่การขับเคลื่อนการใช้จ่ายภาครัฐ และการเร่งรัดการส่งออก และบริการเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้การจัดทำโครงการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2568 กลุ่มแรก รัฐบาลตั้งเป้าหมายการกระตุ้นการบริโภค เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนการใช้จ่ายภายในประเทศให้เกิดการหมุนเวียน ผ่าน 3 โครงการใหญ่ ประกอบด้วย 

1.โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่ 3 ซึ่งโครงการผ่านการเห็นชอบจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้ผู้มีอายุ 16-20 ปี รวมทั้งหมด 2.7 ล้านคน คาดว่า จะจ่ายเงินลงไปถึงมือได้ภายในปลายไตรมาส 2 ปีนี้

2.โครงการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 

3.โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง โดยใน 2 โครงการหลังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดโครงการ

เร่งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ส่วนต่อมาเป็นการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน กำหนดแผนงานเอาไว้หลัก ๆ 1 เรื่อง คือ การเร่งรัดการลงทุนที่ได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว โดยที่ผ่านมามีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ในปี 2566 กว่า 76% ที่เริ่มลงทุนจริงแล้ว 

ขณะที่ส่วนการลงทุนปี 2567 มีเอกชนได้รับการส่งเสริมการลงทุนเพียงแค่ 38% ที่เริ่มลงทุนจริง ดังนั้นจึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เร่งหามาตรการเพิ่มเติมมาเร่งรัดการลงทุนส่วนนี้ต่อไป

อีกส่วนคือ ด้านการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ โครงการในส่วนนี้จะเน้นไปที่การดำเนินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ที่สำคัญเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ มี 6 โครงการ คือ 1.โครงการรถไฟทางคู่สายใต้ 2.โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว (หนองคาย-เวียงจันทน์) แห่งที่ 2 

3.โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า และย่านกองเก็บตู้สินค้าเพื่อรองรับการขนส่งทางรางจังหวัดหนองคาย 4.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งของเขตเศรษฐกิจสำคัญในประเทศ ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) ด้วย 

5.โครงการจ้างแรงงานชลประทาน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ในปี 2568 และ 6.โครงการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่

เร่งเครื่องยนต์ท่องเที่ยวตลอดปี

ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือ การขับเคลื่อนการส่งออก และบริการ มีแผนงานสำคัญ 2 เรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการในปี 2568 นี้ คือ 1.Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ประกาศเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การจัดงานเทศกาลตลอดทั้งปี เป็นต้น

2.โครงการส่งเสริม Soft Power ด้านการท่องเที่ยว โดยเบื้องต้นกำหนดการมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในระดับพื้นที่ 76 จังหวัด ทั่วประเทศ

นอกจากนี้มีโครงการอื่นที่เข้ามาสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวตามเป้าหมาย ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่รัฐบาลเริ่มดำเนินการแล้ว 27 โครงการ เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการแจกเงิน 10,00 บาท ให้ผู้สูงอายุ, โครงการคุณสู้เราช่วย, โครงการเกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชน และภาคธุรกิจ, นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

รวมทั้งยังมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ผ่านโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกรปีการผลิต 2567/68

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์