แพทองธาร ประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 3

จับตานายกรัฐมนตรี ประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ เคาะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตนำร่องเฟส 3 นำร่องกลุ่มย่อยเพื่อทดสอบระบบคาดอาจแจก 3 หมื่นล้านบาทก่อน เริ่มโอนไตรมาส 2
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าวันนี้ (10 มีนาคม 2568) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ และติดตามความคืบหน้าของการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยดิจิทัลวอลเล็ตโดยการแจกเงิน 10,000 บาท ในเฟสที่ 3 โดยจะแจกผ่านในรูปแบบดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมวงเงินไว้กว่า 1.5 แสนล้านบาท ครอบคลุมประชาชนประมาณ 15 ล้านคน จากประชาชนที่มีการลงทะเบียนแล้วกว่า 20 ล้านคน
ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะได้มีการรับฟังข้อมูลความคืบหน้าในการพัฒนาระบบ Open Loops ที่จะใช้ควบคู่ไปกับแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งในส่วนนี้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA จะรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาระบบให้นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการรับทราบว่าระบบจะมีความพร้อมทันไตรมาสที่ 2 ตามนโยบายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่คณะอนุกรรมการ จะได้มีการเสนอให้ที่ประชุมในวันนี้พิจารณาคือ รูปแบบการแจกเงินที่อาจมีการจ่ายให้กับบางกลุ่มก่อนเพื่อทดลองระบบใหม่ โดยนำร่องกับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 3 ล้านคน วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในกลุ่มแรกนี้จะเน้นกลุ่มที่มีความสามารถในการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี “การดำเนินการในกลุ่มเล็กๆ หากมีความขัดข้องก็จะเป็นการปรับปรุงแก้ไขได้ รวมทั้งหากพบปัญหาในการใช้งานก็สามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขให้มีความพร้อม โดยคาดว่าจะเริ่มโอนเงินภายในไตรมาสที่ 2 หรืออย่างช้าในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้” แหล่งข่าว ระบุ
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ยังจะติดตามความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่มีโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเทศกาลต่างๆ กระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งเน้นการขยายตัวของการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย 4.4% ในปีนี้ และกระทรวงการคลังที่เร่งการลงทุน การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2568 ให้ได้มากกว่า 80% รวมถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มค้าขาย
โครงการแจกเงินดิจิทัลนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลหวังว่าจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ถึง 3-3.5% ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
เช็กคุณสมบัติ รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดังนี้
- ประชาชนที่มีชื่อ และที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
- สัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (วันที่ 15 กันยายน 2567)
- ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และธนาคารของรัฐรวมกันเกิน 500,000 บาท ตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่
-เงินฝากกระแสรายวัน
-เงินฝากออมทรัพย์
-เงินฝากประจำ
-บัตรเงินฝาก
-ใบรับเงินฝาก
-ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อข้างต้น (เงินฝากดังกล่าวให้หมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม และเป็นเงินฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
6.ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
7.ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
8.ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
สำหรับกลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ตโฟน มีสิทธิรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท รายละเอียดเงื่อนไขเป็นอย่างไร?
ก่อนหน้านี้นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุว่า ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาเงื่อนไข ว่าจะเปิดลงทะเบียนในช่วงเวลาไหน และจะใช้เงื่อนไขอะไรวัดกลุ่มคนไม่มีสมาร์ตโฟน ซึ่งจะประกาศเป็นทางการต่อไป
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







