เปิดศึก 3 ขั้ว บิ๊กเอกชน ดันตัวแทนชิงเก้าอี้ 'ผู้ว่า รฟม.'

เปิดศึก 3 ขั้ว บิ๊กเอกชน ดันตัวแทนชิงเก้าอี้ 'ผู้ว่า รฟม.'

เร่งสอบคุณสมบัติ 4 แคนดิเดตชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ คาดประกาศผลต้นเดือน เม.ย.นี้ พบเบื้องหลังเอกชน 3 กลุ่ม จากวงการรถไฟฟ้า 2 แห่ง และพลังงาน 1 แห่ง ดันตัวแทนเข้าชิง

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ผลการเปิดรับสมัครผู้ว่าการ รฟม.ในครั้งนี้มีผู้สมัครจำนวน 4 ราย ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการสรรหาผู้ระหว่างสอบถามข้อมูลจาก 17 หน่วยงานช่วยตรวจสอบคุณสมบัติ อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นต้น

อย่างไรก็ดี คณะกรรมการสรรหาคาดว่าจะสามารถตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงสมัครแล้วเสร็จ พร้อมกำหนดเกณฑ์การสัมภาษณ์ผู้สมัคร และสรุปผลการคัดเลือกต่อไป โดยคาดว่าจะได้ตัวผู้ชนะการคัดเลือกประกาศผลในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้

สำหรับผู้ยื่นสมัครผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย

1. นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

2. นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)

3. นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

4. นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

เปิดศึก 3 ขั้ว บิ๊กเอกชน ดันตัวแทนชิงเก้าอี้ 'ผู้ว่า รฟม.'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงสมัครตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.ครั้งนี้ มี 3 กลุ่มเอกชนเข้ามาสนับสนุนผู้สมัครที่มีความสนิทสนม ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รวมไปถึงบริษัทพลังงานรายใหญ่รายหนึ่ง ที่ใกล้ชิดฝ่ายการเมือง และในช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมรวมไปถึงกลุ่มธุรกิจดิจิทัล

ซึ่งแน่นอนว่าตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.เป็นตำแหน่งสำคัญต่อการผลักดันนโยบายและการขับเคลื่อนโครงการพัฒนารถไฟฟ้าที่จะมีการประมูลเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสำคัญที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้โอนให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการพัฒนา ประกอบด้วย

รถไฟฟ้าสายสีเงิน เส้นทางบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 19.7 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 89,948.27 ล้านบาท โดยโครงการจะเชื่อมต่อโครงข่ายกับรถไฟฟ้า 2 สายทาง คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีบางนา) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีศรีเอี่ยม)

รถไฟฟ้าสายสีเทา ระยะที่ 1 ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ระยะทาง 16.3 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 29,130 ล้านบาท โดยโครงการนี้จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 5 สายทาง ประกอบด้วย 1. รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีวัชรพล) 2. รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (สถานีคลองลำเจียก) 3. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีฉลองรัช) 4. รถไฟฟ้าสายสีส้ม (สถานีพระราม 9) และ 5. รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีทองหล่อ)

รถไฟฟ้าสายสีฟ้า ช่วงดินแดง-สาทร ระยะทาง  9.5 กิโลเมตร ซึ่งโครงการนี้แม้จะยังไม่มีการศึกษาประเมินวงเงินลงทุน แต่นับเป็นโครงข่ายสำคัญเข้าถึงพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีลุมพินี) และรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีเพลินจิต)

สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัครตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม. ได้แก่

- มีสัญชาติไทย

- อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในยื่นใบสมัคร

- ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

- ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

- ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

- ไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

- ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง

- ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออกหรือให้ออกจากงานเพราะทุจริตต่อหน้าที่

- ไม่เป็นหรือภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้งไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจในการจัดการหรือมีส่วนได้ส่วนเสียในนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของ รฟม.เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าวโดยการมอบหมายของ รฟม.