'คมนาคม' เตรียมเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า ลุยสร้าง 'บ้านเพื่อคนไทย'

บอร์ด รฟท. อนุมัติ SRTA เช่าที่ดิน 4 แปลง ลุยโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” เฟสแรก 5,700 ยูนิต เตรียมเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า คาดรัฐใช้เงินลงทุน 5,000 ล้านบาท
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค.68 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้มีมติเห็นชอบให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) เช่าทรัพย์สินของ รฟท.เพื่อใช้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอาคารพักอาศัยโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” จำนวน 4 แปลง ประกอบด้วย 1.พื้นที่บางซื่อ กม.11 จำนวน 5 ไร่ 2.พื้นที่ธนบุรี จำนวน 20 ไร่ 3.พื้นที่เชียงราก จำนวน 3 ไร่ และ 4.พื้นที่เชียงใหม่ จำนวน 7.32 ไร่
อย่างไรก็ดี ภายหลัง SRTA ได้รับสิทธิเช่าที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าว ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวโครงการ และเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแจ้งความจำนงในการเข้าร่วมโครงการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยใน 4 พื้นที่แล้ว พบว่ามีประชาชนลงทะเบียนจองสิทธิเข้ามามากกว่า 2 แสนคน โดย SRTA จะเสนอโครงการดังกล่าวเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อขออนุมัติลงทุนพัฒนาโครงการระยะที่ 1 รวมจำนวน 5,700 ยูนิต ประเมินวงเงินลงทุนอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ รฟท.มั่นใจว่าภายหลัง SRTA นำพื้นที่ 4 แปลงนี้ไปพัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนไทย จะก่อให้เกิดผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อ รฟท.หากเทียบกับการนำที่ดินไปเปิดประมูลและพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ด้านอื่นๆ เนื่องจาก SRTA ศึกษาจะให้ผลตอบแทนเป็นค่าเช่าแก่ รฟท.ครอบคลุมสัญญา 30 ปี ในสัดส่วน 36% ของมูลค่าที่ดิน พร้อมส่วนแบ่งกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายก่อสร้างโครงการแล้ว
“หลัง SRTA ได้รับสิทธิในการพัฒนาโครงการบนที่ดินเหล่านี้ ก็จะไปลงนามร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม และพัฒนาโครงการตามแผนซึ่งคาดว่าเฟสแรกจะพัฒนาจำนวนกว่า 5,000 ยูนิต โดยหากมีปริมาณความต้องการของผู้ผ่านคุณสมบัติที่ลงทะเบียนโครงการบ้านเพื่อคนไทยเป็นจำนวนมาก ก็จะดำเนินการจับฉลากต่อไป”
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า ผลตอบแทนที่ รฟท.จะได้รับจากการให้สิทธิในการพัฒนาโครงการนั้น SRTA จะเป็นผู้จ่ายค่าเช่า และส่วนแบ่งกำไรให้ โดยกำหนดจ่ายค่าเช่าในสัดส่วน 36% ของราคาประเมินที่ดิน เมื่อโครงการมีการก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมส่งมอบพื้นที่ก่อนเข้าอยู่อาศัย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2569 ดังนั้น รฟท.คาดว่าจะได้รับค่าเช่าดังกล่าวในช่วงต้นปี 2570 โดย SRTA จะจ่ายค่าตอบแทนให้ รฟท.เป็นเงินก้อนเพียงงวดเดียว ตลอดอายุสัญญาเช่า 30 ปี หลังจากนั้นจะดำเนินการต่อสัญญาอีก 30 ปี และอยู่ระหว่างรอการแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายอายุสัญญาเช่าให้ได้จำนวน 99 ปี
ทั้งนี้ รฟท.ยังเชื่อว่าการพัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของการหารายได้ให้ รฟท.และช่วยล้างหนี้ 2 แสนล้านบาท เนื่องจาก รฟท.เป็นผู้ถือหุ้น 100% ของ SRTA ทำให้จะมีการแบ่งกำไรให้ รฟท.ตามสัดส่วนที่กำหนด อีกทั้งการพัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงระบบขนส่งทางราง จะได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งอนาคตเมื่อมีการเข้าอยู่อาศัยจะทำให้พื้นที่นี้มีความคึกคัก โดยเฉพาะย่าน กม.11 จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โครงการอื่นๆ โดยรอบบนที่ดิน รฟท.
สำหรับ โครงการบ้านเพื่อคนไทย บนพื้นที่บางซื่อ กม.11 จำนวน 5 ไร่ ปัจจุบันตั้งอยู่บนพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ แปลง G จำนวน 20 ไร่ โดยการก่อสร้างระยะที่ 1 จะไม่กระทบต่อบ้านพักพนักงาน รฟท. แต่เมื่อโครงการได้ดำเนินการในระยะที่ 2 - ระยะที่ 4 จะเริ่มดำเนินการรื้อย้ายบ้านพักพนักงาน รฟท. โดยส่วนนี้จะมีการมอบสิทธิในพนักงาน รฟท.ได้เข้าอยู่อาศัยตามระเบียบด้วย
ทั้งนี้พื้นที่พัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระยะที่ 1 ทั้ง 4 พื้นที่ ประกอบด้วย
- พื้นที่พัฒนาย่าน กม.11 ยังนับเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีการเดินทางเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะอย่างสะดวก โดยโครงการจะอยู่ห่างจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กิโลเมตร ห่างจากเซ็นทรัลลาดพร้าว 500 เมตร และห่างจาก MRT พหลโยธิน 500 เมตร
- พื้นที่พัฒนาบนพื้นที่ธนบุรี (ศิริราช) ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีส้ม 800 เมตร มีขนาดที่ดินประมาณ 23 ไร่
- พื้นที่เชียงราก จังหวัดปทุมธานี ใกล้ ถนนเลียบคลองเปรมประชากร ห่างจากสถานีรถไฟเชียงราก 4.4 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 4.4 กิโลเมตร ห่างจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 4.4 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ 9 กิโลเมตร
- พื้นที่เชียงใหม่ ติดสถานีรถไฟเชียงใหม่ ติดถนนเจริญเมือง ถนนทุ่งโฮเต็ล ห่างจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย 2.5 กิโลเมตร ห่างจากมหาวิทยาลัยพายัพ 2.6 กิโลเมตร ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 7.5 กิโลเมตร และห่างจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ 1.3 กิโลเมตรต่อ 5 นาที
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







