‘บวท.’ กางแผนลงทุน 3.6 พันล้าน หนุนนโยบาย 'ฮับการบินภูมิภาค'

‘บวท.’ กางแผนลงทุน 3.6 พันล้าน  หนุนนโยบาย 'ฮับการบินภูมิภาค'

รัฐบาลมีนโยบายการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค  (Aviation Hub) ซึ่งคาดว่าในปี 2580 จะมีเที่ยวบินเข้าสู่ประเทศไทยถึง 2 ล้านเที่ยวบินต่อปี พร้อมลงทุน

KEY

POINTS

  • รัฐบาลตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค (Aviation Hub) คาดว่าในปี 2580 เที่ยวบินเพิ่มเป็น 2 ล้านเที่ยวบินต่อปี จากปัจจุบัน 1.2 ล้านเที่ยวบิน
  • บวท.พร้อมลงทุน 3,600 ล้านบาท สนับสนุนสนามบินที่จะมีการก่อสร้าง 3 แห่ง แห่งละประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ในประเทศ 
  • บวท.พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่มาพัฒนาการบิน เช่น หอบังคับการบินอัจฉริยะ (Digital Tower)  Air Traffic Flow Management (ATFM) และ Airport Collaborative Decision Making (A-CDM)

 

รัฐบาลมีนโยบายการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค(Aviation Hub) ซึ่งคาดว่าในปี 2580 จะมีเที่ยวบินเข้าสู่ประเทศไทยถึง 2 ล้านเที่ยวบินต่อปี เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่รองรับเที่ยวบินประมาณ 1.2 ล้านเที่ยวบินต่อปี ซึ่งจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคารผู้โดยสาร รันเวย์ ยังต้องมีการลงทุนที่สำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยีการบินในส่วนที่เป็นความดูแลของวิทยุการบิน (บวท.) ด้วย  

นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)  กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มีแผนจะขยายศักยภาพการบินในภูมิภาค 3 แห่งเพื่อรองรับจำนวนเที่ยวบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก  สนามบินนานาชาติอันดามัน  และสนามบินล้านนา ซึ่งสนามบินทั้ง 3 แห่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2572 – 2573

ลงทุน 3.6 พันล้านไม่เป็นหนี้สาธารณะ 

บวท.ได้เตรียมแผนการลงทุนในส่วนของหอบังคับการการบิน และเทคโนโลยีการบินตามการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ เพื่อสนับสนุนนโยบายศูนย์กลางการบินของกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล โดยการลงทุนจะใช้วงเงินประมาณ 3,600 ล้านบาท โดยลงทุนในสนามบินทั้ง 3 แห่งประมาณแห่งละ 1,200 ล้านบาท เนื่องจากทั้ง 3 แห่งนี้เป็นสนามบินที่มีลักษณะเหมือนกันคือ มีการก่อสร้างเป็นสนามบิน 2 รันเวย์ และมีเที่ยวบินมากกว่า 1 แสนเที่ยวต่อปี  

ทั้งนี้เบื้องต้นจะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ ซึ่งได้มีการหารือสถาบันการเงินในประเทศแล้ว 1-2 แห่ง โดยเงินกู้จำนวนนี้จะไม่ได้เป็นเงินกู้ที่รัฐบาลค้ำประกันจึงไม่เป็นหนี้สาธารณะ

‘บวท.’ กางแผนลงทุน 3.6 พันล้าน  หนุนนโยบาย 'ฮับการบินภูมิภาค'

“การลงทุนครั้งนี้จะครอบคลุมตามแผนการขยายศักยภาพสนามบินเพื่อรองรับเป้าหมายของประเทศที่จะรับเที่ยวบิน 2 ล้านเที่ยวบินต่อปี ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีการบินที่มีความทันสมัยถือว่าสำคัญมาก ที่สามารถเพิ่มศักยภาพการบินได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการพัฒนาสนามบินทำรันเวย์จำนวนมากใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่เท่ากับการมี 2 รันเวย์ในแต่ละสนามบิน และมีสนามบินอยู่บริเวณใกล้กันเป็นคลัสเตอร์ที่จะเชื่อมโยง และใช้ประโยชน์ทางการบินร่วมกันได้” นายณพศิษฏ์ กล่าว

นำเทคโนโลยีใหม่เพิ่มศักยภาพการบิน

สำหรับการนำเทคโนโลยีทางการบินมาใช้เพิ่มเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการบินให้กับประเทศจะเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) บวท. อยู่ระหว่างพัฒนาแนวทางการใช้งานระบบหอบังคับการบินอัจฉริยะ หรือ Digital Tower ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการให้บริการจราจรทางอากาศ

ช่วยให้เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศสามารถมองเห็นภาพที่สมจริง และครอบคลุมของพื้นที่สนามบิน แก้ปัญหาจุดอับสายตา ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เพิ่มระดับความปลอดภัยการใช้งานทางวิ่ง ทางขับ เพิ่มความปลอดภัยในการให้บริการจราจรทางอากาศ และทำให้สามารถรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น

‘บวท.’ กางแผนลงทุน 3.6 พันล้าน  หนุนนโยบาย 'ฮับการบินภูมิภาค'

อีกทั้งยังสามารถพัฒนารองรับการขยายสนามบินในอนาคตโดยไม่ต้องสร้างหอควบคุมการจราจรทางอากาศใหม่เพิ่ม สามารถพัฒนาเป็นหอควบคุมการจราจรทางอากาศสำรอง (Contingency/Backup Tower) 

ใช้เทคโนโลยี Digital Tower ควบคุมการบินหนาแน่น 

รวมถึงพัฒนาเป็นห้องฝึกปฏิบัติจำลอง (3D Simulator) เพื่อใช้ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศได้ โดยในระยะแรกมีแผนนำเทคโนโลยี Digital Tower เข้าใช้งาน ณ สนามบินที่มีความหนาแน่นสูง  ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และสมุย ในปี 2569 จากนั้นในระยะถัดไปจะเป็นการนำเข้าใช้งานสำหรับสนามบินที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศน้อย ในลักษณะ Remote Tower เพื่อช่วยลดภาระในการส่งเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศไปประจำ ณ ท่าอากาศยานนราธิวาส และเบตง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2570

‘บวท.’ กางแผนลงทุน 3.6 พันล้าน  หนุนนโยบาย 'ฮับการบินภูมิภาค'

นอกจากนี้ บวท. ยังอยู่ระหว่างดำเนินการเชื่อมต่อข้อมูลระบบบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ หรือ     Air Traffic Flow Management (ATFM) และ Airport Collaborative Decision Making (A – CDM) ซึ่งเป็นกระบวนการตัดสินใจร่วมกันของผู้ใช้งาน ผู้ให้บริการ และ ผู้ดำเนินงานสนามบิน เข้าด้วยกัน

ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจราจรทางอากาศ และการบริหารความคล่องตัวจราจรทางอากาศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และขยายขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น    

 

 

              
พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์