'กรุงเทพธุรกิจ' คว้า 3 รางวัลข่าวเชิงวิเคราะห์ 'ป๋วย อึ๊งภากรณ์'

"กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 3 รางวัลบทความข่าวเชิงวิเคราะห์ (ลับคมความคิด) ประจำปี 2567 "รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์" จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย
สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย จัดประกวดบทความข่าวเชิงวิเคราะห์ (ลับคมความคิด) “รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์” ประจำปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะในการนำเสนอข่าวด้านเศรษฐกิจ เพื่อคนในสังคมส่วนใหญ่ได้หันมาให้ความสนใจกับข่าวเศรษฐกิจมากขึ้น โดยบทความที่ได้จากโครงการนี้จะได้รับการเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ทั้งในส่วนที่ดำเนินการโดย สมาคมฯ และสื่อต้นสังกัดของสมาชิก ซึ่งจะทำให้สังคมได้รับรู้เกี่ยวกับข่าวเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
โดยในปีนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” คว้า 3 รางวัล ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ ประกอบด้วย
รางวัลที่ 1 ได้แก่ เรื่อง ขึ้น “VAT” สกัด “วิกฤติการคลัง” บันไดขั้นแรก “ปฏิรูปภาษี” ทำอย่างไร ให้คนไทยได้ประโยชน์ เขียนโดย นายนครินทร์ ศรีเลิศ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
บทความเรื่องขึ้น “VAT” สกัด “วิกฤติการคลัง” บันไดขั้นแรก “ปฏิรูปภาษี” ทำอย่างไร ให้คนไทยได้ประโยชน์ ของนครินทร์ ศรีเลิศ มีสาระสำคัญในการหยิบเอาประเด็นที่รัฐบาลออกมาพูดถึงแนวคิดเรื่องของการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อรองรับภาระการคลังที่เพิ่มขึ้น โดย “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศ โดยผลที่ตามมามีเสียงคัดค้านมากมายจากหลายภาคส่วน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่พร้อม
อย่างไรก็ตามภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้นในอนาคตการขึ้น VAT อาจถูกหยิบยกมาเป็นทางเลือกของรัฐบาล ซึ่งในหลายประเทศทำเรื่องนี้ไปกับการปฏิรูปการคลัง ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่าย สร้างความโปร่งใสในระบบงบประมาณ ส่วนบางประเทศใช้การขึ้น VAT เพื่อนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นไปใช้ยกระดับขีดความสามารถแข่งขันของประเทศ
รางวัลที่ 3 ได้แก่ เรื่อง เปิดปฏิบัติการ สางปัญหานอมินี “อาชญากรทางเศรษฐกิจ” ทำลายประเทศ เขียนโดย นางสาวประภาศรี โอสถานนท์ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
บทความเรื่อง เปิดปฏิบัติการ สางปัญหานอมินี “อาชญากรทางเศรษฐกิจ” ทำลายประเทศ บอกเล่าถึงปัญหา “นอมินี” หรือการให้คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตประกอบธุรกิจ ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศและฝังรากลึกในระบบเศรษฐกิจไทย รัฐบาลตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee ) โดยได้จัด 4 กลุ่มธุรกิจเสี่ยงที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ คือ ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง, ธุรกิจค้าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจโลจิสติกส์และขนส่ง พุ่งเป้าตรวจสอบการเป็นนอมินีในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว พื้นที่เศรษฐกิจ เช่น กรุงเทพ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น
โดยผลจากการทำงานของคณะอนุกรรมการปราบนอมินี ฯ เริ่มเห็นการจับกุมนิติบุคคลที่เข้าข่ายการเป็นนอมินี เป็นระยะๆ จนถึงปัจจุบัน แม้จะยังไม่ทั้งหมด แต่ความเกรงกลัวกับผู้กระทำความผิด ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและทรัพย์สินของประชาชนได้ ที่สำคัญดึงความเชื่อมั่นจากต่างประเทศว่า “ไทย” เอาจริงกับปัญหา “นอมินี” บัญชีม้า
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรื่อง รัฐควักเงินอุ้มสถานะ ‘สายการบินแห่งชาติ’ เขียนโดย นางสาววรรณิกา จิตตินรากร หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
บทความเรื่อง รัฐควักเงินอุ้มสถานะ ‘สายการบินแห่งชาติ’ ผู้เขียนบอกเล่าถึงการทำงานของรัฐบาลที่นำเงินจากรายได้เงินฝากจากการบริหารหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลัง วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท มาใช้ในการเพิ่มทุนให้กับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อคงสัดส่วนให้รัฐบาลยังคงเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุดกว่า 40% และจะทำให้การบินไทยยังเป็นสายการบินแห่งชาติต่อไป
โดยการจัดสรรเงินของกระทรวงการคลังครั้งนี้นับเป็นวงเงินจำนวนมาก ท่ามกลางปัญหางบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านรายได้ภาครัฐไม่เพียงพอกับรายจ่ายมานาน ดังนั้นการบริหารจัดการเงินกองคลังที่มีอยู่จึงมีความจำเป็น รัฐบาลต้องรอบคอบต่อการจัดใช้เงินทุนที่มีอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเพิ่มทุนการบินไทยครั้งนี้ ต้องเกิดประโยชน์ต่อการผลักดันนโยบาย Aviation Hub และพัฒนาขีดความสามารถของประเทศอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวในเครือเนชั่น ยังคว้ารางวัลที่ 2 ได้แก่ เรื่อง ความท้าทายประเทศไทย เศรษฐกิจตกอันดับอาเซียน ปิดประตูสู่ประเทศพัฒนาแล้ว เขียนโดย นายวสวัตติ์ โอดทวี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
สำหรับรางวัลบทความดังกล่าว สมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแห่งประเทศไทย และจากสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในการใช้ชื่อ “รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์” ซึ่งเป็นการเชิดชูเกียรติประวัติ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในฐานะที่เป็นปราชญ์ทางเศรษฐกิจ โดยมีการจัดการประกวดบทความต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 เพื่อพัฒนาทักษะในการนำเสนอข่าวด้านเศรษฐกิจ และคนในสังคมส่วนใหญ่ได้หันมาให้ความสนใจกับ ข่าวเศรษฐกิจ มากขึ้น
สำหรับการส่งผลงาน สมาคมฯ เปิดรับผลงานตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม 2567
โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ร่วมตัดสิน ประกอบด้วย
- รศ.ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)
- คุณศรัณยกร อังคณากร ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์สื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย
- รศ.ดร.จินตวีร์ เกษมศุข คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
- อาจารย์นฤดม ต่อเทียนชัย อาจารย์ประจำสาขาการตลาดดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
- คุณวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.)







