พาณิชย์ จับมือ แพลตฟอร์ม Flips.IP เปิดทางแปลงลิขสิทธิ์เพลงเป็นโทเคนดิจิทัล

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมมือ ฟลิปส์ อินโนเวทีฟ พัฒนาแพลตฟอร์ม ‘Flips IP’ หนุนเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เปิดทางแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นโทเคน ดิจิทัล แต่ต้องจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ก่อนเปิดระดมทุนมูลค่าตลาดของเพลงอยู่ที่เกือบ 4,000 ล้านบาท
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือสำหรับการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญา และบริษัท ฟลิปส์ อินโนเวทีฟ จำกัด ว่า แพลตฟอร์ม Flips.IP จะเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยสร้างรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญา โดยเปลี่ยนลิขสิทธิ์เพลงให้เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ซึ่งจะช่วยให้ศิลปินไทยที่ต้องการเงินทุน สามารถใช้ผลงานสร้างสรรค์ของตนเองมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อ ภายใต้ความร่วมมือจากธนาคารต่างๆ ของไทย
จากปัจจุบัน ที่ผู้สร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมเพลงของไทย มีปัญหาเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทั้งเพื่อผลิตผลงานใหม่ จัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสร้างสรรค์ผลงาน โปรโมตผลงานเพลงให้เป็นที่รู้จัก
ทั้งนี้แพลตฟอร์ม Flips.IP จะช่วยให้ศิลปินและค่ายเพลงสามารถนำผลงานลิขสิทธิ์มาแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) หรือโทเคน โดยศิลปินสามารถออกโทเคนดิจิทัล ได้ 2 ประเภท คือ โทเคนที่ให้สิทธิในการเข้าถึงบริการหรือสิทธิพิเศษ (Utility Token) เช่น การรับฟังเพลงก่อนเปิดตัว หรือการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษกับศิลปิน หรือโทเคนที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือครองได้รับผลตอบแทนจากรายได้ของลิขสิทธิ์เพลง (Investment Token) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเพลงไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (IFPI) ได้เผยแพร่รายงาน Global Music Report ปี 67 ระบุว่า ปี 66 ตลาดเพลงไทยมีมูลค่ารวมกว่า 3,600 ล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับที่ 26 ของโลก
นายดวงฤทธิ์ บุนนาค ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการพัฒนายุทธศาสตร์อุตสาหกรรมออกแบบ กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Flips.IP จะเป็นตัวกลางในการลงทุนของเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง เพื่อระดมทุนในการทำเพลง โดยจะเน้นศิลปินหน้าใหม่ ลักษณะเหมือนเป็นการระดมทุนของสตาร์ทอัพ เพื่อหานักลงทุนที่สนใจ หรือชื่นชอบในผลงานของศิลปินนั้นๆ ซึ่งก่อนการเปิดให้ลงทุน จะนำผลงานของเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงมาประเมินมูลค่าทางการตลาด แล้วระดมทุน ส่วนการจะแปลงโทเคน ดิจิทัลเป็นเงิน ก็จะมีธนาคารพาณิชย์เป็นตัวกลางอีกที
โดยปัจจุบัน มูลค่าตลาดของเพลงอยู่ที่เกือบ 4,000 ล้านบาท และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากมีการแปลงลิขสิทธิ์เพลงให้เป็นทุนได้มากๆ
นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ก่อนที่จะเปิดให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เจ้าของลิขสิทธิ์เพลง จะต้องมาจดแจ้งลิขสิทธิ์เพลงกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาก่อน เพื่อให้มีข้อมูลว่า ใครเป็นเจ้าของ เมื่อนำไปเปิดให้ลงทุนแล้ว ผู้ที่เป็นเจ้าของจึงจะได้รับผลประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการปกป้องคุ้มครองสิทธิ์ ไม่ให้ผู้อื่นนำไปใช้หาประโยชน์ในเชิงไม่ชอบด้วย







