เกษตรฯชู 'คน พื้นที่ เทคโนโลยี 'เพิ่มผลผลิตข้าวโพดฯ74% ที่พะเยา

เกษตรฯชู 'คน พื้นที่ เทคโนโลยี 'เพิ่มผลผลิตข้าวโพดฯ74% ที่พะเยา

แม้ไทยจะผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และถั่วเหลืองได้ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมปศุสัตว์จึงต้องพึ่งพาการนำเข้า และต้นทุนสูง

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า  จากข้อมูลสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ ประเทศไทยมีปริมาณความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เฉลี่ยปีละ  8.4 ล้านตัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่ยังคงเติบโต ตามภาคปศุสัตว์ สอดคล้องกับปริมาณการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านตัน โดยเหตุผลที่นำเข้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการใช้อาหารสัตว์ของไทยคาดว่าจะขยายตัวตามภาคปศุสัตว์ ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นวัตถุดิบที่มีสัดส่วนความต้องการสูงเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับพืชอาหารสัตว์อื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังผลิตได้เองประมาณ 4-5 ล้านตัน ส่วนที่เหลือจึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

เกษตรฯชู 'คน พื้นที่ เทคโนโลยี 'เพิ่มผลผลิตข้าวโพดฯ74% ที่พะเยา

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  มีนโยบายในการสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพ และผลิตภาพของภาคการเกษตร ภายใต้หลักการ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ส่งเสริมการเกษตรมูลค่าสูง และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ผ่านการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนายกระดับสินค้าเกษตร ทั้งนี้  กรมส่งเสริมการเกษตรได้เลือกจังหวัดพะเยา  เป็นจังหวัดนำร่องในการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตสินค้าและเป็นต้นแบบ ในการผลิตสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดพะเยา โดยใช้หลักการ  “คน พื้นที่ สินค้า + เทคโนโลยี” หรือหลักการ “3 + 1”

ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินงานพะเยาโมเดลสู่การพัฒนาศักยภาพสินค้าเกษตร ปี 2567 สินค้าข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ พบว่า ในแปลงเกษตรกรที่มีการใช้ปุ๋ยพีจีพีอาร์ -1 ร่วมกับการวิเคราะห์ดิน ปรับปรุงดิน และการให้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ส่งเสริมให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ที่ความชื้น 30% เพิ่มขึ้น 74% เทียบกับก่อนเข้าร่วมโครงการ 990 กิโลกรัมต่อไร่ หลังเข้าร่วมโครงการ 1,738 กิโลกรัมต่อไร่

เกษตรฯชู 'คน พื้นที่ เทคโนโลยี 'เพิ่มผลผลิตข้าวโพดฯ74% ที่พะเยา

 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างแปลงที่มีการใช้กับไม่ใช้เทคโนโลยี พบว่า ในแปลงเกษตรกรที่มีการใช้ปุ๋ยพีจีพีอาร์-1 ร่วมกับการวิเคราะห์ดิน ปรับปรุงดิน และการให้ปุ๋ย ตามค่าวิเคราะห์ดิน เพิ่มขึ้น 24% หรือจากผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ที่ 1,400 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 1,738 กิโลกรัมต่อไร่ ที่ความชื้น 30% หรือ จากผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ที่ 1,201 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 1,487 กิโลกรัม ต่อไร่ที่ความชื้น 14.5% 

และพบว่าเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3,693 บาทต่อไร่ หรือ 49%  จาก 7,434 บาทต่อไร่ โดยผลผลิตเฉลี่ยก่อนเข้าร่วมโครงการ 999 กิโลกรัมต่อไร่ x 7.40 บาทต่อกิโลกรัม ที่ความชื้น 30%  เป็น 11,128 บาทต่อไร่ จากผลผลิตหลังเข้าร่วมโครงการ 1,738 x 6.40 บาทต่อกิโลกรัม ที่ความชื้น 30%

“ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นอีกหนึ่งความท้าทายในพืชเศรษฐกิจ ที่สำคัญของภาคเกษตร เพราะเกษตรกรจะต้องเข้าใจการเพาะปลูกพืชที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งจะส่งผล ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยต้องรู้ระดับความเหมาะสมของพื้นที่ปลูกของตนเอง การปรับปรุงบำรุงดิน การคัดเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่สามารถเพิ่มผลผลิต การใช้ปุ๋ยที่ถูกต้อง ถูกที่ และถูกเวลา”

 รวมถึงการป้องกันและกำจัดโรค/ศัตรูพืช เข้าใจวิธีการในการจัดการอย่างถูกต้องและเหมาะสม และต้องเตรียมความพร้อมให้แก่เกษตรกร ในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ได้มาตรฐาน GAP เนื่องมาจากความตื่นตัวของภาคอุตสาหกรรมในเรื่องของ BCG Model และ Carbon Credit นอกจากนี้ การเก็บเกี่ยวข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ที่ถูกต้องและเหมาะสม เนื่องจากระยะการเก็บเกี่ยวจะสัมพันธ์กับความชื้นของผลผลิตที่จะส่งผลต่อเนื่องไปยังราคารับซื้อและคุณภาพของผลผลิต

นอกจากนี้ การพัฒนาศักยภาพสินค้าเกษตรของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังต้องคำนึงถึงระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (Corn Traceability) รวมถึงการจัดการเศษวัสดุตอซัง ที่ต้องให้ทุกภาคส่วนเข้ามา มีส่วนร่วมและการบริหารจัดการอย่างครอบคลุมและเป็นระบบอีกด้วย

สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง เป้าหมายพื้นที่ดำเนินการ จำนวน 1 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ปลูกปัจจุบัน จำนวน 661,644 ไร่ พื้นที่ปลูกใหม่ หรือขยายพื้นที่ปลูก จำนวน 338,356 ไร่ เกษตรกรเป้าหมาย 100,000 ราย โดยดำเนินการในพื้นที่เหมาะสมมาก และเหมาะสมปานกลาง ทั้งพื้นที่ในเขตชลประทาน หรือนอกเขตชลประทาน ที่มีศักยภาพในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อีกทั้งมีศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำ เช่น มีระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้า แหล่งน้ำธรรมชาติ บ่อตอก บ่อบาดาล เป็นต้น ระยะเวลาดำเนินการ เดือน ก.ย.2567 – ส.ค. 2568

ทั้งนี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 80,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทย พบว่า ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ผลิตภายในประเทศยังมีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ โดยการคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต 2567/68 อยู่ที่ 4,970,897 ตัน แบ่งเป็นฤดูฝน 4,433,522 ตัน เพิ่มขึ้น 0.83% และฤดูแล้ง 537,375 ตัน ลดลง 3.57% เมื่อเทียบกับปี 2566/67 (ข้อมูล สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ณ มิ.ย. 2567