ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 จากเชื้อเพลิงสำรองสหรัฐลด

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3  จากเชื้อเพลิงสำรองสหรัฐลด

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วัน หลังปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นในสหรัฐลดลง ขณะที่ความกังวลการส่งออกน้ำมันรัสเซียสะดุด หนุนราคา

รอยเตอร์สรายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกวันพฤหัสบดี (20 ก.พ.) ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 44 เซ็นต์ หรือ 0.58% ปิดที่ 76.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต ของสหรัฐ(WTI) ส่งมอบเดือนมีนาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 32 เซ็นต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 72.57 ดอลลาร์

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดเล็กน้อย ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามฤดูกาลส่งผลให้การกลั่นน้ำมันลดลง

 จิโอวานนี สเตาโนโวนักวิเคราะห์จากธนาคาร UBS กล่าวว่า “ปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่สำรองน้ำมันเบนซินลดลงเล็กน้อยและน้ำมันกลั่นลดลงมาก ทำให้ปริมาณน้ำมันสำรองทั้งหมดไม่เปลี่ยนแปลง”

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากมีรายงานดังกล่าว

รัสเซียและสหรัฐได้ประชุมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มต้นขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์และเตรียมการสำหรับการยุติความขัดแย้ง

อย่างไรก็ตาม การหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันบางส่วนทำให้ราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของยูเครน เฮอร์มัน ฮาลูเชนโก กล่าวว่า รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานก๊าซของยูเครนและสร้างความเสียหายให้กับโรงงานผลิตก๊าซเมื่อคืนนี้

รัสเซียกล่าวว่าปริมาณการไหลของน้ำมันจากท่อส่ง Caspian Pipeline Consortium ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการส่งออกน้ำมันดิบจากคาซัคสถาน ลดลง 30-40% เมื่อวันอังคาร หลังจากที่โดรนของยูเครนโจมตีสถานีสูบน้ำมันในรัสเซีย

ด้านนักวิเคราะห์ของธนาคาร ING ระบุว่า โอกาสที่อิรักจะกลับมาส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคเคิร์ดิสถานอีกครั้งอาจช่วยชดเชยความเสี่ยงด้านอุปทานได้

แต่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของตุรกีกล่าวกับรอยเตอร์สเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ตุรกีซึ่งเป็นเจ้าของท่าเรือเจย์ฮานที่ขนถ่ายน้ำมันของอิรักจากภูมิภาคเคิร์ดิสถาน ยังไม่ได้รับการยืนยันจากอิรักเกี่ยวกับการกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง

นักวิเคราะห์ของ ING กล่าวว่า การกลับมาดำเนินการส่งน้ำมันของอิรักอีกครั้งจะทำให้มีอุปทานเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรลต่อวันเข้าสู่ตลาด

นักวิเคราะห์กล่าวว่าภาษีนำเข้าที่ประกาศโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง โดยทำให้ต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้น ทำให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอลง และความต้องการเชื้อเพลิงลดลง นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันของยุโรปและจีนยังกดดันราคาน้ำมันอีกด้วย

บียาร์เน ชีลดรอป หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคารSEB กล่าวว่า “เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์กำลังโจมตีโครงสร้างการค้าเสรีโลกที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วยสัญญาณการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ”