เปิดแผน รัฐนำร่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR ก่อนเปิดทาง 'เอกชน' ลงทุน

เปิดแผน รัฐนำร่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR ก่อนเปิดทาง 'เอกชน' ลงทุน

"พลังงาน" เผย เอกชนทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR หวั่นกำกับยาก แนะ "กฟผ." หน่วยงานรัฐทำก่อนดีที่สุด หากเกิดปัญหาด้านความไม่ปลอดภัย รัฐบาลสามารถสั่งหยุดได้ทันที 

KEY

POINTS

  • ร่างแผน PDP กำหนดไว้เบื้องต้นที่ 600 เมกะวัตต์ โดยอาจแบ่งเป็นโรงละ 300 เมกะวัตต์ เพื่อเป็นทางเลือกสำคัญให้กับไทย 
  • ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จะมีการกำหนดมาตรฐาน การจะลงทุนจะต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบของ ของกฎระเบียบด้านความปลอดภัย
  • หากให้กฟผ.นำร่อง รัฐบาลสามารถสั่งได้ หากเอกชนทำเองเมื่อเกิดปัญหาด้านความปลอดภัย รัฐบาลอาจสั่งให้หยุดเดินเครื่องไม่ได้ 

ตามร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ฉบับใหม่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นอยู่ที่ 51% ส่วนใหญ่เป็นโซลาร์, ก๊าซธรรมชาติ 40% และไฮโดรเจน 5% ส่วนการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านจะรวมอยู่ในสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 

อย่างไรก็ตามในปลายแผน PDP ช่วงปี 2579-2580  จะมีพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactors : SMR) เป็นโรงไฟฟ้าซึ่งใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก ที่สามารถผลิตกําลังไฟฟ้าได้ ในระดับที่ตํ่ากว่า 300 เมกะวัตต์ มีความสะอาดและเสถียรภาพสูงสุด

มีลักษณะเป็นโมดูล (Module) ที่ผลิตและประกอบ เบ็ดเสร็จจากโรงงานผู้ผลิต ทําให้มีระยะเวลา การก่อสร้างน้อยกว่าโรงไฟฟ้าแบบเดิม และสะดวกต่อการขนย้าย โดยในร่างแผน PDP กำหนดไว้เบื้องต้นที่ 600 เมกะวัตต์ โดยอาจแบ่งเป็นโรงละ 300 เมกะวัตต์ เพื่อเป็นทางเลือกสำคัญให้กับไทย 

ซึ่งบริษัทพลังงานส่วนใหญ่ต่างประกาศแผนธุรกิจการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป้าหมาย Net Zero ซึ่งส่วนใหญ่จะเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศไทยถึง 15 ปี ทั้งการนำเทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอน (CCS) ไฮโดรเจน รวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นต้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) มีแผนให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งศึกษาแผนพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก หรือ SMR เพื่อที่จะนำมาสร้างในประเทศไทยหวังสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแห่งอนาคต

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เอกชนขนาดใหญ่หลายรายมีแนวคิดที่จะดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคีลยร์ขนาดเล็กด้วยเทคโนโลยี SMR เพื่อให้บริการเองนั้น ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จะมีการกำหนดมาตรฐาน ดังนั้น การจะลงทุนเทคโนโลยีนิวเคลียร์หรือการนำเข้ามาจะต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบของ ของกฎระเบียบด้านความปลอดภัย

ทั้งนี้ ที่ยากที่สุดคือการทำความเข้าใจกับภาคประชาชน อีกทั้ง สิ่งสำคัญคือ การจะนำเทคโนโลยีนิวเคียร์เข้ามาจะต้องขออนุมัติจากสถาบันด้านมาตรฐานด้านพลังงานโลก ซึ่งจะต้องดูความพร้อมก่อนที่จะมีโรงงานนิวเคลียร์ ดังนั้น การจะสร้างโรงไฟฟ้าตจึงควรเป็นระดับประเทศก่อนแล้วค่อยเป็นระดับ Commercial 

นอกจากนี้ การจะลงระดับ Commercial ได้แปลว่าผ่านมาตรฐานระดับประเทศแล้ว ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากเรคกูเลเตอร์ในประเทศไทย คือ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และสำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ซึ่งจะต้องเข้าไปหารือ 

"เข้าใจว่าที่ภาครัฐให้กฟผ. เป็นผู้นำร่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก่อน เนื่องจากเป็นหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลโดยรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลสามารถสั่งได้ หากเกิดวันหนึ่งนิวเคลียร์อยู่กับภาคเอกชนซึ่งจะต้องดำเนินกิจการและคำนึงถึงผลกำไร หากวันหนึ่งเกิดปัญหาด้านความปลอดภัย แล้วรัฐบาลสั่งให้หยุดเดินเครื่องก็อาจจะไม่หยุดเพราะกลัวว่าจะขาดทุนแล้วใครจะรับผิดชอบในเรื่องนี้" 

ดังนั้น หากกฟผ. ดำเนินการ แล้ว ปส.รายงานว่าไม่ปลอดภัย สำนักงาน กกพ. เข้าตรวจสอบพบว่าก็จะต้องหยุดเดินเตรื่องทันที ก็สามารถทำได้ จึงมองว่าในเรื่องของการขอติดตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เอกชนเองอาจยังไม่รู้อะไรอีกหลายอย่าง จึงควรหารือกับภาครัฐให้ตกผนึกก่อน แต่ส่วนตัวก็ไม่แน่ใจว่าเอกชนมีการหารือรอบด้านแค่ไหน