แพทองธารสั่งศึกษาท่าเทียบเรือสำราญ หนุน ททท.ปั้นสงขลาเมืองท่องเที่ยวโลก

“แพทองธาร” สั่งคมนาคมศึกษาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวสงขลา เพิ่มการท่องเที่ยวทางน้ำที่มีกลุ่มเดินเรือสำราญมาท่องเที่ยวมากขึ้น ด้าน ททท.ปั้นสงขลาสู่เมืองท่องเที่ยวศักยภาพระดับโลก
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ นอกสถานที่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 18 ก.พ.68 ที่ผ่านมาว่า จากการลงพื้นที่ จ.สงขลา พบว่ามีศักยภาพที่รองรับเรือสำราญที่มาจากต่างประเทศได้จึงสั่งการให้กระทรวงคมนาคม เร่งศึกษาการพัฒนาท่าเรือที่มีมาตรฐานรองรับเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ให้มากขึ้น
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเรือสำราญจากสิงคโปร์มีการเทียบท่านำนักท่องเที่ยวไปลงที่เกาะสมุย และททท.ได้ชักชวนให้มาที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ด้วยซึ่งในส่วนนี้ขณะนี้ต้องดูเรื่องการอำนวยความสะดวกขนส่งนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญขึ้นมาท่องเที่ยวที่สงขลา
จัดการท่องเที่ยว one day trip จ.สงขลา
โดยสามารถจัดเส้นทางท่องเที่ยวแบบวันเดียว หรือ one day trip ได้ ทั้งนี้ จังหวัดสงขลา ถือเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภาคใต้ตอนล่าง - เมืองพหุวัฒนธรรม – เมืองสองทะเล มีจุดขายคือ ต้นทุนทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิตท้องถิ่น เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย โดยปัจจุบันมีเที่ยวบินจำนวนมากมาลงที่ อ.หาดใหญ่ และนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวทางรถ หากมีเรือสำราญมา จะเป็นการเพิ่มเติมการท่องเที่ยวทางน้ำ
เมืองเก่าสงขลา แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก
ขณะเดียวกันเมืองเก่าสงขลา ซึ่งนายกรัฐมนตรีไปเยี่ยมชม ได้รับการประกาศรายชื่อเป็น “แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก” และกำลังอยู่ระหว่างการผลักดันสงขลาสู่เมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO จะยิ่งทำให้เมืองมีโอกาสพัฒนาได้อย่างรวดเร็วในหลากหลายมิติ เพื่อยกระดับสู่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลกได้ต่อไป
หนุนการท่องเที่ยวข้ามภาค
นอกจากนี้ ททท. ตั้งใจขยายกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวความสนใจพิเศษ อาทิ กลุ่มเรือยอช์ต กลุ่ม Self-Drive กลุ่มคาราวาน กลุ่ม Incentive และ MICE เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นกลุ่มใช้จ่ายสูง และมีแผนขยายเส้นทางการบินเชื่อมโยงภูมิภาคจากท่าอากาศยานต่างๆ ในประเทศไทย อาทิ ท่าอากาศยานอุดรธานี เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าถึงสงขลาของนักท่องเที่ยวไทย และประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว
สำหรับภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ปี 2567 มีผู้เยี่ยมเยือนรวม 6,998,664 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 24.53% จากปี 2566 แบ่งเป็นคนไทย 3,135,386 คน-ครั้ง และชาวต่างชาติ 3,863,278 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 50,286.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.81 % จากปี 2566
ซึ่งมาจากนักท่องเที่ยวชาวไทย 21,838.32 ล้านบาท และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28,448.08 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ลาว และจีน ตามลำดับ ทั้งนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าจังหวัดสงขลา ปี 2568 เพิ่มขึ้น 8-10% จากปี 2567
ททท.วาง 3 โครงการหลักปั้นดันการท่องเที่ยว
นางสาววัจนันท์ ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท. กล่าวว่า ททท. วางแผนส่งเสริมการตลาดในพื้นที่จังหวัดสงขลาด้วย 3 โครงการหลัก ประกอบด้วย
1.โครงการสนุกทั้งปีที่สงขลา กระตุ้นท่องเที่ยวตลอดทั้งปีด้วยอีเวนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยว
2.โครงการ Exploring Songkhla ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดสงขลา ระหว่างพื้นที่หลักคือ อำเภอหาดใหญ่ไปยังพื้นที่รองอื่น ๆ ด้วยกิจกรรม Joint Promotion ร่วมกับผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว เจาะกลุ่มเป้าหมายคือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในประเทศไทย กลุ่มขับรถเที่ยว กลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิม
3.โครงการ Beyond Expectations พบกับ 3 กิจกรรมย่อย ได้แก่ แคมเปญ Go South Multiverse เอาใจนักท่องเที่ยวสายมู เที่ยวใต้เสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ ปี 2568 , กิจกรรม Collect & Go กระตุ้นการเดินทางของเที่ยวจังหวัดสงขลา ในรูปแบบ Travel Passport ตามล่าตราแสตมป์ 25 จุด ทั่วเมืองหาดใหญ่- สงขลา เป็นต้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







