ทำไมประเทศไทยควรพัฒนาไปสู่ Global Brand มากขึ้น?

ทำไมประเทศไทยควรพัฒนาไปสู่ Global Brand มากขึ้น?

สวัสดีผู้สนใจการพัฒนาธุรกิจให้มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งทุกท่านครับ จากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศไทยเห็นแล้วก็น่ากังวลครับ เพราะทุกๆ สำนักให้ตรงกันว่า GDP เราจะเติบโตไม่เกิน 3% ซึ่งรั้งท้ายในอาเซียนครับ เราจะพึ่งแค่การท่องเที่ยวและส่งออกไม่ได้แล้วครับ หรือจะหันไปพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง AI กับเจ้าโลกทั้งหลายก็ไม่รู้ว่าจะตามทันเมื่อไร 

นโยบายสำคัญที่รัฐบาลหรือภาคเอกชนควรได้มาพิจาณาคือ การต่อยอดธุรกิจเดิมในประเทศให้ขยายออกไปยังต่างประเทศ แต่...ไม่ใช่ส่งออกสินค้านะครับ แต่ต้องส่งออกแบรนด์ได้ครับ หรือเรียกได้ว่าพัฒนาธุรกิจในประเทศให้เป็น Global Brand มากยิ่งขึ้น ทำไมการพัฒนาแบรนด์ไทยให้เป็น Global Brand เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ สร้างโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก มีเหตุผลสำคัญ ดังนี้

1.ขยายโอกาสทางเศรษฐกิจและการเติบโตของธุรกิจ

- ตลาดภายในประเทศมีขนาดจำกัด การออกสู่ตลาดโลกช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้และฐานลูกค้า

- ประเทศไทยมีศักยภาพด้านสินค้าและบริการหลายประเภท เช่น อาหาร, แฟชั่น, การท่องเที่ยว, Soft Power, ความงาม, อาหารเสริม และ อสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถแข่งขันในตลาดสากลได้ จึงควรนำมาพิจารณาในการผลักดันต่อยอดสู่การทำให้ธุรกิจเหล่านี้ก้าวไปสู่ Global Brand Global market

2.เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ

- หากแบรนด์ไทยก้าวสู่ระดับโลก มูลค่าแบรนด์จะเพิ่มขึ้น เช่น กรณีของ MUJI (ญี่ปุ่น), Redbull, M&M, KFC, Samsung (เกาหลีใต้) ที่กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก ซึ่งทำให้ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจและประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น

- การเป็น Global Brand ทำให้สามารถตั้งราคาสูงขึ้นและไม่ต้องแข่งขันที่ต้นทุนต่ำเพียงอย่างเดียว

3.ยกระดับความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของประเทศ

- ประเทศที่มีแบรนด์ระดับโลกหลายแบรนด์ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ มักถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงและสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาชาวโลก

- หากไทยมี Global Brand มากขึ้น ภาพลักษณ์ประเทศจะดีขึ้นในสายตานานาชาติ

- ทำให้ยกระดับอำนาจต่อรองในตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

4.ลดการพึ่งพาการส่งออกแบบดั้งเดิม

- ไทยพึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) ที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ เช่น ข้าว ยางพารา ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมักแข่งขันที่ราคาและมีอำนาจต่อรองน้อยในตลาด

- หากมี Global Brand มากขึ้น ไทยสามารถส่งออกสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เช่น แฟชั่น อาหาร เครื่องสำอาง เทคโนโลยี หรืออสังหาริมทรัพย์

5.สร้างขีดความสามารถด้านนวัตกรรมการแข่งขันระยะยาว

- แบรนด์ระดับโลกจะช่วยสร้าง นวัตกรรม ในประเทศอัตโนมัติเพราะต้องทำงานกับนักวิจัยหลากหลายด้านเพื่ออกสินค้าใหม่ให้สามารถเข้าตลาดได้ซึ่งเป็นการผลักดันให้ธุรกิจไทยแข่งขันได้ในระยะยาว ตัวอย่างเช่น Alibaba, BYD, Mi, Samsung และ Hyundai ที่เริ่มต้นจากตลาดภายในประเทศและพัฒนาจนเป็น Global Brand ที่ทรงอิทธิพลได้ประสบความสำเร็จ

6.ส่งเสริม Soft Power และวัฒนธรรมไทยสู่สากล

- การเป็น Global Brand ช่วยให้ไทยใช้ Soft Power ผลักดันวัฒนธรรมไทยไปสู่ตลาดโลก เช่น อาหารไทย แฟชั่นไทย ศิลปะและดนตรีไทย โดยการเพิ่มมูลค่าต่อยอดให้คนในอุตสาหกรรมนี้เกิดรายได้มากกมายเหมือนใน Hollywood ที่คนในวงการนี้ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีของโลกมากมาย แบรนด์ที่สามารถสร้าง Soft Power ได้ เช่น K-pop ของเกาหลีใต้, Hello Kitty ของญี่ปุ่น Hollywood จากสหรัฐ เป็นต้น

7.รองรับแนวโน้มโลก เช่น Sustainability และ Low Carbon Economy

- ตลาดโลกกำลังให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน (Sustainability) และ Low Carbon Economy ซึ่งไทยสามารถใช้จุดแข็งนี้ในการพัฒนาแบรนด์ที่ตอบโจทย์แนวโน้มโลก ตัวอย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์แบบ Low Carbon Architecture, อาหารจากพืช (Plant-Based Food) ที่เป็นที่ต้องการสูง หรือ วัสดุคาร์บอนต่ำ ที่ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ผมคิดว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นโยบาย Global brand ควรถูกดำเนินการโดยเร็วและทำให้เป็นรูปธรรมเพื่อทำให้เศรษฐกิจของไทยไปต่อได้และที่สำคัญเติบโตอย่างยั่งยืนแน่นอครับ