‘กอบศักดิ์’ หนุนบทบาทไทยฮับการเงิน แนะใช้ กม.สากล-สกุลเงินดอลลาร์

‘กอบศักดิ์’ หนุนบทบาทไทยฮับการเงิน  แนะใช้ กม.สากล-สกุลเงินดอลลาร์

"กอบศักดิ์" หนุนไทยศูนย์กลางทางการเงิน แนะดันการลงทุนที่เกี่ยวข้องทั้งเฮดควอเตอร์ - ธุรกิจครอบครัวขนาดใหญ่ แนะออกกฎหมายลูกใช้กฎหมายระหว่างประเทศในการระงับข้อพิพาท ใช้สกุลเงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรมป้องกันค่าบาทผันผวน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)  กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินโดย มีการออกกฎหมาย พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน นั้นนโยบายนี้จะมีความสำเร็จได้โดยการที่จะต้องดึงเอาธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเงินเข้ามาด้วย รวมทั้งจะต้องมีการออกกฎหมายลูกที่สนับสนุนให้มีการใช้กฎหมายที่เป็นสากล

นายกอบศักดิ์กล่าวว่าแนวทางในการการดึงเอาธุรกิจในภาคการเงิน (Financial Sector) และธุรกิจที่เกี่ยวข้องเข้ามาลงทุนในไทย หากจะมุ่งเฉพาะธุรกิจด้านนี้อย่างเดียวจะไม่ค่อยจะสมเหตุสมผล จะต้องมีการดึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องเข้ามาทั้งหมด เช่น การดึงการลงทุนของสำนักงานใหญ่ข้ามภูมิภาค (Reginal headquarters) บริษัทการค้าข้ามชาติ ศูนย์กลางบริหารเงิน  (Trading Center) หรือหน่วยงานบริหารความมั่งคั่งหรือธุรกิจของครอบครัว (Family Office) ซึ่งหลายกลุ่มนี้มีหลายกลุ่มที่กำลังมองหาโอกาสในการเคลื่อนย้ายการลงทุน และจะใช้บริหารจัดการธุรกิจเช่นสถาบันการเงินมากขึ้นซึ่งจะสนับสนุนธุรกิจลักษณะนี้ให้สามารถเติบโตได้ในไทย

ทั้งนี้ต้องทำให้นักลงทุนรู้สึกเหมือนมีสิงคโปร์ในประเทศไทย โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะอยู่ในภูมิภาคนี้ ในลักษณะเดียวกับที่สิงคโปร์มีการทำธุรกรรมแบบนี้ซึ่งเราก็ต้องไปดูว่าจุดแข็งที่ประเทศไทยมีอยู่นั้นเราจะต่อยอดในส่วนนี้ให้แข่งกันกับศูนย์กลางทางการเงินอื่นๆ

"ธุรกิจเหล่านี้มาเป็นคลัสเตอร์ได้ธุรกิจที่เชื่อมโยงกันก็จะอยู่กับประเทศไทยต่อเนื่องไปในระยะยาว ดังนั้นจะต้องเปิดกว้าง ถ้าเราตั้งเฉพาะสถาบันการเงิน หรือธุรกิจการเงินอย่างไรอย่างหนึ่งวันหนึ่งเมื่อที่อื่นมีเงื่อนไขอื่นที่ดีกว่าเขาก็จะย้ายออกจากประเทศไทย ต่อให้ตัวที่ตั้งไม่ไปก็จะเอาธุรกรรมย้ายไปในที่อื่นได้ เหตุผลที่นักลงทุนในเซ็กเตอร์นี้จะลงทุนในไทยก็คือต้องสามารถดึงธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วย”นายกอบศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการเป็นศูนย์กลางทางการเงินจะส่งผลต่อค่าเงินบาทที่จะผันผวนมากขึ้นหรือไม่ นายกอบศักดิ์ระบุว่าในเรื่องนี้หลายฝ่ายได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว โดยทาง ธปท.ระบุว่าว่าในการทำธุรกรรมทางการเงินให้ทำในรูปแบบเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวน

ส่วนข้อกังวลที่ว่าการจัดตั้งธุรกิจใน พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงินในครั้งนี้จะไม่เหมือนในปี 2540  เพราะในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนทั้งระบบนิเวศที่เป็นธุรกิจด้านการเงินและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ถือว่าเป็นก้าวแรก และการทำเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ

โดยเฉพาะในประเด็นการระงับข้อพิพาทที่เป็นเรื่องสำคัญของธุรกิจทางการเงินซึ่งนักลงทุนต้องการให้ใช้กลไกกฎหมายระหว่างประเทศที่เป็นสากล (International law) ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปดูแนวทางของสิงคโปร์ ซึ่งไทยต้องออกกฎหมายลูกออกมาสนับสนุนสนุนในเรื่องนี้ด้วยจึงจะทำให้การเป็นศูนย์กลางทางการเงินของประเทศไทยสามารถเกิดขึ้นได้จริง