พาณิชย์ เอ็กซเรย์นอมินี สินค้าไร้คุณภาพ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

นภินทร ประชุม ปราบปรามนอมินี เอ็กซเรย์นอมินี สินค้าไร้คุณภาพ จับธุรกิจเสี่ยงนอมินี 820 คดี ความเสียหาย 12,495 ล้านบาท ลุยเช็กรายชื่อนิติบุคคลบัญชีม้า กว่า 2 แสนราย
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่งด้าว (นอมินี) ครั้งที่ 3/68 ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะทำงานขึ้น 1 ชุด โดยมี ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจตามกฎหมายทุกหน่วยงานร่วมด้วยกว่า 20 หน่วยงาน เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.), จังหวัด, องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น, ตรวจคนเข้าเมือง, ศุลกากร, สำนักงานพาณิชย์จังหวัด, จัดหางานจังหงัด, อาหารและยา, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ
เพื่อ ตรวจสอบนอมินี (คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อทำธุรกิจในไทยโดยเลี่ยงทำตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542) และสินค้านำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และทำให้ทั้ง 2 ปัญหานี้หมดไปจากประเทศ โดยเร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์ จะหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เพื่อร่วมกันดำเนินในเรื่องดังกล่าว
“คณะทำงานชุดนี้ จะทำงานเชิงรุก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจตามกฎหมายเกี่ยวกับนอมินี และการนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ร่วมอยู่ด้วย ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการ ซึ่งจะร่วมกันเอ็กซเรย์นอมินีทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อกวาดล้างนอมินี และสินค้านำเข้าไม่ได้มาตรฐานให้หมดไปจากประเทศไทย คาดจะเริ่มเอ็กซเรย์ทั่วประเทศได้ในเร็วๆ นี้ "นายนภินทร กล่าว
โดยคณะทำงานชุดนี้ จะต้องรายงานผลการดำเนินงานมายังคณะอนุกรรมการฯ ทุกเดือน จากนั้น คณะอนุกรรมฯ จะรายงานต่อคณะกรรการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ก่อนรายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
สำหรับ ผลการปราบปรามนอมินี ตั้งแต่เดือนก.ย.-ธ.ค.67 นั้น จับกุมดำเนินคดี ธุรกิจนอมินี ได้แล้ว 783 คดี มูลค่าความเสียหาย 11,783 ล้านบาท ส่วนเดือนม.ค.68 จับกุมดำเนินคดีเพิ่มได้อีก 37 คดี ความเสียหาย 710 ล้านบาท รวมทั้งหมด 820 คดี ความเสียหาย 12,495 ล้านบาท
ส่วนใหญ่เป็น นอมินีธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์, ธุรกิจอื่นๆ เช่น ตลาดออนไลน์ วัสดุก่อสร้าง สำนักงานบัญชี ในพื้นที่กรุงเทฯ ระยอง รวมถึงธุรกิจขนส่งสินค้าทางบก, ค้าอสังหาริมทรัพย์และเกี่ยวเนื่อง โดยมีทั้งต่างด้าวจากประเทศในยุโรป และเอเชีย
นายนภินทร กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหานิติบุคคลบัญชีม้าว่า จากการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (ซีไอบี) แก้ปัญหาในเรื่องนี้ โดยซีไอบีจะจัดส่งรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อ การฟอกเงิน และ อาชญากรข้ามชาติ ในกรณีบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานหรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐาน รหัส HR-03 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาให้กรมเพื่อตรวจสอบว่า มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลในไทยหรือไม่ อย่างไรนั้น
ล่าสุด ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC) สายด่วน 1441 ได้ส่งรายชื่อดังกล่าวมาให้แล้ว 3 ครั้งตั้งแต่เดือนม.ค. รวม 204,000 ราย ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า รายชื่อทั้งหมด มีทั้งคนไทย และคนต่างชาติ เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลในไทยรวม 1,159 ราย และทั้งหมดมีความเสี่ยงที่จะเป็นนิติบุคคลบัญชีม้า หรือธุรกิจสีเทาในไทย จึงได้ส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจตามกฎหมาย ทั้งซีไอบี, ปปง., กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฯลฯ ให้ดำเนินการต่อแล้ว







