เปิดแผนหยุดอุ้มน้ำมันปาล์มผลิตไบโอดีเซลปี 69 ยึดต้นแบบพ.ร.บ.อ้อย ดูแลชาวสวน

"พีระพันธุ์" เร่งยกร่างกฎหมายส่งเสริมน้ำมันปาล์ม ดูแลเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม และส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอย่างครบวงจร
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการยกร่างกฎหมายส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมาเพื่อเร่งการดำเนินงานยกร่างกฎหมายดังกล่าว
โดยร่างกฎหมายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือดูแลเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันให้ได้รับความเป็นธรรมด้านรายได้ และมีหลักประกันในการประกอบอาชีพ หลังจากที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะหยุดชดเชยการตรึงราคาน้ำมันปาล์มที่เอาไปผสมกับน้ำมันดีเซลในปี 2569
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้แต่งตั้งให้นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นประธานคณะกรรมการในการยกร่างกฎหมายดังกล่าว และจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อยกร่างกฎหมายอีก 1 คณะ เพื่อให้การยกร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยรูปแบบของร่างกฎหมายส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มนี้จะนำรูปแบบของพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ที่ส่งเสริมพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยมาปรับใช้ในทำนองเดียวกัน
“ผมเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะช่วยทําให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มมีหลักประกันในการประกอบอาชีพ พร้อมทั้งสร้างความเป็นธรรมในด้านรายได้ และจะทําให้วงจรของการนําน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นสินค้าหรือเพิ่มมูลค่า เป็นไปอย่างเป็นระบบและครบวงจร” นายพีระพันธุ์กล่าว
นายพีระพันธุ์ ยังเปิดเผยอีกว่า กระทรวงพลังงานได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้การบริหารของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อช่วยกันเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน หลังจากที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะหยุดชดเชยการตรึงราคาน้ำมันปาล์มที่นำไปผสมกับน้ำมันดีเซลเพื่อผลิตเป็นไบโอดีเซลในปี 2569 ที่จะถึงนี้
ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ต้องรีบเตรียมการเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มมีตลาดเพิ่มมากขึ้น และรองรับกับสถานการณ์ในปีหน้าซึ่งตนเชื่อว่าการเตรียมการนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นให้ลุล่วงไปด้วยดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 ถือเป็นวันสิ้นสุดมาตรการขอผ่อนผันการใช้กฎหมาย “ยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ” ซึ่งคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาข้อดี-ข้อเสียของการขอผ่อนผันการใช้กฎหมายดังกล่าวอีกครั้ง จึงพิจารณาขอขยายเวลาไปอีก 2 ปี เพื่อให้กฎหมายไปมีผลบังคับใช้ในปี 2569 แทน และมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอนเพื่อพิจารณา
สำหรับ พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ได้กำหนดให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล์ต่างๆ และน้ำมันดีเซล B7 และดีเซล B20 มาตั้งแต่ปี 2565 แต่กฎหมายเปิดโอกาสให้ขอยืดเวลาการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวได้ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 2 ปี ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ขอขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 24 ก.ย. 2567 นี้ ดังนั้นจึงขยายเวลาได้อีก 1 ครั้ง ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย และกฎหมายจะบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย. 2569







