กฟผ. รายงาน 'พีระพันธุ์' เร่งบริหารถ่านหินลดผลกระทบเบรกประมูลแม่เมาะ

"กฟผ." ส่งหนังสือด่วนที่สุด! รายงาน "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ให้เร่งบริหารถ่านหิน เพื่อลดผลกระทบเบรกประมูลแม่เมาะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่งหนังสือด่วนที่สุด! ถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรื่อง รายงานแนวทางการบริหารจัดการลดผลกระทบ กรณีงานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะล่าช้า
ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ดำเนินการจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่าน ที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 โดยวิธีพิเศษ (สัญญาที่ 8/1) และ กฟผ. ได้ดำเนินการพิจารณาอุทธรณ์แล้วเสร็จ โดยได้นำเรียนท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (รอง นรม/รมว.พน.) ตามหนังสือที่อ้างถึง
ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการลงนามสัญญากับผู้ชนะการคัดเลือก เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีงานจ้างเหมาขุด - ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะของ กฟผ. ที่แต่ตั้งโดยรอง นรม/รมว.พน. ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จนั้น
อย่างไรก็ตาม ขอเรียนว่า กฟผ. จะพยายามบริหารการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินที่สำรองไว้ในช่วงฤดูฝนเพื่อผลิตไฟฟ้าไปพลางก่อนปริมาณถ่านหินที่เตรียมไว้สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะในช่วงฤดูฝนปี 2568 สามารถนำมาใช้ล่วงหน้าได้ 4 เดือน ตั้งแต่กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2568 โดยผลกระทบต่อกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าสรุปได้ดังนี้
1. กรณีเริ่มงานสัญญาที่ 8/1 ล่าช้ากว่าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 จะทำให้โรงไฟฟ้าต้องลดกำลังการผลิตลง 300 เมกะวัตต์/วัน
2. กรณีเริ่มงานสัญญาที่ 8/1 หรือมีแนวทางอื่นที่ต้องล่าช้าออกไปเกินกว่าเดือนพฤษภาคม 2568 ถ่านทีเตรียมไว้ใช้ในฤดูฝนจะหมด ทำให้โรงไฟฟ้าต้องลดกำลังการผลิตลงอีก 1,100 เมกะวัตต์/วัน รวมเป็นกำลังการผลิตที่ลดลง 1,400 เมกะวัตต์/วัน ต่อเนื่องไปจนกว่าจะได้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการ
รวมถึงต้องใช้ระยะเวลาเพิ่มเติมในการเตรียมถ่านสำรองให้มีปริมาณเพียงพออีกครั้ง (ไม่น้อยกว่า 4 เดือน) จะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ต้องคำนวณจาก LNG มาทดแทนกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ลดลง
การนำเข้า LNG แบบ Spot ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กกพ. และต้องใช้เวลาในการดำเนินการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 45 วัน