ทองคำทุบสถิติ นักลงทุนแห่ซื้อท่ามกลางสงครามการค้า

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากนักลงทุนที่ต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่จีนประกาศเก็บภาษีกับสินค้าสหรัฐเพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
รอยเตอร์ส รายงานการซื้อทองคำวันอังคาร (4 ก.พ.68) ว่า ราคาทองคำในตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1.1% สู่ระดับ 2,844.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ 13.40 น.ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18.40 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,845.14 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้า
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) เพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 2,873.7 ดอลลาร์
บ็อบ ฮาเบอร์คอร์น นักกลยุทธ์ตลาดอาวุโสของ RJO Futures กล่าวว่า “ข่าวเรื่องภาษีศุลกากรออกมาเมื่อคืนนี้ ผมคิดว่าตอนนี้เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนมากกว่าสิ่งอื่นๆ และข้อมูลทั้งหมดที่ออกมาในวันนี้ ผมคิดว่าข่าวเรื่องภาษีศุลกากรจะบดบังข่าวอื่นไป”
“ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเข้าสู่สัปดาห์นี้ แต่ด้วยดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ช่วยหนุนราคาทองคำได้อย่างแน่นอน” ฮาเบอร์คอร์น กล่าว
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% ทำให้ทองคำมีราคาลดลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
จีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้ภาษีใหม่ของสหรัฐอย่างรวดเร็ว ทำให้สงครามการค้าระหว่างสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกทวีความรุนแรงขึ้น ในขณะที่ทรัมป์เสนอการผ่อนผันให้กับเม็กซิโก และแคนาดา
ผู้บริหารธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) 3 คนเตือนเมื่อวันจันทร์ว่า แผนการจัดเก็บภาษีการค้าของรัฐบาลทรัมป์มีความเสี่ยงทำให้เกิดเงินเฟ้อสูง โดยคนหนึ่งแย้งว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มราคาทำให้ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้าลง
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างในสหรัฐในเดือนธันวาคม ลดลงเหลือ 7.6 ล้านตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าประมาณการที่คาดกันไว้ที่ 8 ล้านตำแหน่ง บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
โดยทั่วไปแล้ว ทองคำแท่งถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากทั้งเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้สินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนนี้มีเสน่ห์น้อยลง
จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก Kitco Metals กล่าวว่า เนื่องจากความปั่นป่วนทางนโยบายของรัฐบาลสหรัฐในปัจจุบัน ส่งผลให้ตลาดมีความไม่แน่นอน ประกอบกับธนาคารกลางในประเทศต่างๆ อาจเพิ่มการซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำอาจพุ่งแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ในปีนี้
ขณะนี้ นักลงทุนให้ความสนใจกับรายงานการจ้างงานของ ADP ที่ออกในวันพุธ รายงานการจ้างงานในวันศุกร์ และคำปราศรัยของเจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายคน
ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 1.9% เป็น 32.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลทินัมเพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 965.30 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมลดลง 1.8% เป็น 990.84 ดอลลาร์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์