ทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตลาดหวั่นภาษีทรัมป์

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้ากับแคนาดา จีน และเม็กซิโก ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่อาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันจันทร์ (3ก.พ.68) ว่า ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.8% สู่ระดับ 2,818.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.45 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18.45 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,830.49 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ(Gold Futures) ปรับตัวสูงขึ้น 0.8% สู่ระดับ 2,857.10 ดอลลาร์
เดวิด เมเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะของโบรกเกอร์ High Ridge Futures กล่าวว่า แม้ว่าดอลลาร์ที่แข็งค่าจะส่งผลให้ตลาดทองคำได้รับผลกระทบตามปกติ แต่ราคาทองคำยังคงพุ่งขึ้นเนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งขับเคลื่อนโดยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของทรัมป์
แผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา และเม็กซิโกที่ทรัมป์ กำหนดไว้ที่ 25% ในวันอังคาร รวมไปถึงภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% ทำให้เกิดความกลัวว่าสงครามการค้าจะเกิด ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
แคนาดา และเม็กซิโกสั่งตอบโต้ ขณะที่จีนระบุว่าจะท้าทายภาษีที่องค์การการค้าโลกกำหนด และจะใช้มาตรการตอบโต้ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ประกาศระงับภาษีนำเข้าที่สหรัฐจะเรียกเก็บจากเม็กซิโก และแคนาดาไว้เป็นเวลา 1 เดือน
บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของวาณิชธนกิจTD Securities ระบุว่า ตลาดยังไม่มั่นใจเต็มที่ว่าสงครามการค้าจะรุนแรงขนาดไหน
“เรายังไม่ได้เห็นการตอบสนองอย่างเต็มที่จากทองคำ และหากสงครามการค้ายังคงดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต” เมเล็กกล่าวเสริม
ทองคำมักถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจหรือภูมิรัฐศาสตร์ไม่มั่นคง
รายงานวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุว่า ผลกระทบจากการเทขายหุ้นอาจฉุดราคาทองคำในระยะใกล้ลง แต่ภาษีศุลกากรที่ป่วนตลาดถือเป็นปัจจัยสำคัญในการหนุนราคาทองคำในระยะกลาง
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนกำลังรอรายงานการจ้างงานของ ADP ซึ่งจะเปิดเผยเกี่ยวกับตำแหน่งงานว่างในสหรัฐ และรายงานการจ้างงานของสหรัฐ เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินในธุรกิจค้าทองคำกำลังขนส่งทองคำจากศูนย์กลางการค้าในเอเชีย เช่น ดูไบ และฮ่องกงไปยังสหรัฐ เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคาทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐ ที่สูงผิดปกติเมื่อเทียบกับราคาตลาดสปอต
ด้านราคาโลหะเงินตลาดสปอตเพิ่มขึ้น 0.8% สู่ระดับ 31.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลทินัมลดลง 1.5% สู่ระดับ 963.40 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 1,012.85 ดอลลาร์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์