เจ้าสัว ซีพี หนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ขับเคลื่อนการเข้าถึง เอไอ ทุกภาคส่วน

เจ้าสัว ซีพี หนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ขับเคลื่อนการเข้าถึง เอไอ  ทุกภาคส่วน

ธนินท์ ชี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คือ ธุรกิจที่มีอนาคต หนุนพลังงานสะอาดอย่างการใช้ AI เทคโนโลยี ขณะมองเศรษฐกิจไทยมีอนาคตแม้โลกป่วนแนะโยกงบสร้างถนน ทำระบบชลประทานคุมแล้ง น้ำท่วม มั่นใจผลผลิตพืชไร่เพิ่ม 5 เท่า

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี เปิดเผยในการ “Chula Thailand Presidents Summit 2025” ว่า ชีวิตประจำวันที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเอไอ และเทคโนโลยี  ซึ่งต้องพึ่งพาไฟฟ้าเป็นพลังงานพื้นฐาน ดังนั้นธุรกิจพลังงานสะอาดจึงมีความทันสมัย และมีอนาคต อย่างไรก็ตามพลังงานไฟฟ้าที่มาจาก ลม น้ำ แสงอาทิตย์ นั้นไม่มีความเพียงพอ ปัจจุบันโลกกำลังให้ความสนใจอย่างเด่นชัดคือไฟฟ้านิวเคลียร์  เป็นธุรกิจในอนาคตที่ยิ่งใหญ่ ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย ขณะนี้ได้กำหนดกฎหมายขึ้นมารองรับแล้ว แต่ไทยยังไม่มี ดังนั้นถ้าพูดถึงการใช้เอไอ และเทคโนโลยี แล้วไทยต้องมีพลังงานสะอาดใช้อย่างเพียงพอด้วย 

สำหรับภาคเศรษฐกิจของไทย มองว่ายังมีอนาคต และว่าต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งการเมือง  ดิน ฟ้า อากาศปั่นป่วน การใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทน อย่างรวดเร็ว  แม้จะมีวิกฤติ แต่วิกฤติก็ยังเต็มไปด้วยโอกาส เนื่องจากประเทศไทยมีที่ตั้งที่พอเหมาะ เป็นที่นิยมของการท่องเที่ยว การผลิตอาหาร และมีคมนาคมที่สะดวก

เจ้าสัว ซีพี หนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ขับเคลื่อนการเข้าถึง เอไอ  ทุกภาคส่วน

เจ้าสัว ซีพี หนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ขับเคลื่อนการเข้าถึง เอไอ  ทุกภาคส่วน

โดยในส่วนของการท่องเที่ยว เห็นด้วยกับรัฐบาลที่เปิดฟรีวีซ่าเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เสริมสร้างรายได้เข้าประเทศได้ง่ายที่สุด แต่รัฐบาลต้องมีสนับสนุนงบประมาณ เพื่อสร้างความมั่นใจ สร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น   กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ว่าจะให้เกิดการท่องเที่ยวระดับไหน  ไทยจะได้อะไร

ด้านการเกษตร จะเห็นได้ว่าไทยไม่เคยประสบภัยธรรมชาติ ที่เลวร้าย  ทั้งแผ่นดินไหว ไต้ฝุ่น เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวันจีน นอกจากภัยแล้ง และน้ำท่วม ที่มาทุกปี  ซึ่งแนะนำว่ารัฐบาลควรนำงบประมาณที่ใช้สร้างถนนมาจัดรูปที่ดิน  ปฏิรูปที่ดิน ทำระบบชลประทาน พร้อมกับถนน

เจ้าสัว ซีพี หนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ขับเคลื่อนการเข้าถึง เอไอ  ทุกภาคส่วน

หากมีระบบชลประทานที่ดี ภัยแล้งหรือน้ำท่วมก็จะไม่กระทบ  พืชไร่จะสามารถเพาะปลูกได้ ปีละ 3 ครั้ง หรือ 3 ครอป ผลผลิตจะเพิ่มขึ้น 5 เท่า พืชสวนสามารถปลูกได้ที่สูง ที่ต่ำทำเป็นบึง ขายน้ำปั่นไฟ รอบบึงสามารถทำเป็นที่อยู่อาศัย ทำการท่องเที่ยว  

ในขณะที่รัฐบาลต้องพัฒนาพันธุ์พืช สัตว์ ให้ทนแดด ทนความร้อน ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพปลอดภัย โดยกระบวนการผลิตในภาคการเกษตรต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทุกขั้นตอน  เป็นห่วงโซ่ที่ยาวที่สุด เช่นเดียวกับที่ซีพี ทำไร่อยู่กัมพูชา 4 หมื่นไร่ จีน 1 แสนไร่ รัสเซีย 7 แสนไร่  ต้องใช้โดรนในการให้ปุ๋ย  เพื่อตรวจเช็ก ให้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่าย  สะดวก กว่าเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องบิน 

เรียกได้ว่า ซีพีทำตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ  ค้าปลีกจนถึงโต๊ะอาหาร  แต่ไม่ใช่การผูกขาด เป็นแนวดิ่ง เพื่อให้ทุกขั้นตอนสอดคล้องกัน  เพราะถ้าผลิตมากคนไม่ซื้อก็เสียหาย แต่ผลิตไม่พอก็เสียหาย  จึงจำเป็นต้องมีดูแลทั้งต้นน้ำ และปลายน้ำให้มีความสอดคล้องกัน  

“สินค้าเกษตรถือเป็นน้ำมันบนดิน เป็นทรัพย์สมบัติที่ล้ำค่าของประเทศไทย ที่สร้างรายได้ให้กับประชาชนคนไทยอย่างแท้จริง 90%  อย่างไรก็ตาม ภาคการเกษตรที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี จำเป็นที่สถานศึกษาต้องผลิตคนให้มีความรู้ ความสามารถ เพื่อพัฒนาภาคการเกษตรให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยจบแล้วทำงานได้เลย อย่างมีคุณภาพ ” 

ในฐานะนักธุรกิจ และประชาชนคือ ลูกค้า  ธุรกิจเราจะอยู่รอดได้ต้องพึ่งพาประชาชน และอยากให้ประชาชนมีกำลังซื้อเยอะๆ   แต่ยอมรับว่าในโลกที่เทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่าย การทำกำไรจากการขายสินค้าทำได้ยากขึ้น เพราะผู้บริโภคสามารถสืบค้นข้อมูลราคาได้ทางโลกอินเทอร์เน็ต ดังนั้นการทำกำไรจึงใช้วิธีการลดต้นทุนให้เหลือน้อยที่สุด ใช้เครื่องจักร สร้างพนักงานของบริษัทให้มีประสิทธิภาพขึ้น ไม่กังวลเรื่องค่าแรงขั้นต่ำของประเทศไทยที่คาดว่าขึ้นถึง 600 บาทต่อวันอยู่แล้ว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์