OR ปั้น ‘เน็กซ์อเมซอน’ เปลี่ยนผ่านฟอสซิล ลุยธุรกิจ 'เฮลท์-เวลล์เนส'

OR ปั้น ‘เน็กซ์อเมซอน’ เปลี่ยนผ่านฟอสซิล  ลุยธุรกิจ 'เฮลท์-เวลล์เนส'

“ม.ล.ปีกทอง” CEO OR สร้างความแข็งแกร่ง 3 ธุรกิจหลัก Mobility-Lifestyles-Global พร้อมสร้าง Next Amazon ตามรอยความสำเร็จธุรกิจกาแฟ อัดงบลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท เปลี่ยนผ่านธุรนกิจน้ำมันสู่ New Energy-Based เพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมัน 38% เร่งฃธุรกิจใหม่ Health & Wellness

KEY

POINTS

  • ม.ล.ปีกทอง ประกาศวิสัยทัศน์ในโอกาสที่ได้เข้ารับตำแหน่งว่าจะสานต่อวิสัยทัศน์ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน”
  • OR จะขับเคลื่อนองค์กรอย่างรอบด้าน ผลักดันประเทศไทยเข้าสู่การเป็น Oil Hub แห่งภูมิภาค กำลังการกลั่นรวมกันอยู่ที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  • ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมัน (มาร์เก็ตแชร์) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 38% ในปีนี้ ซึ่งจะใกล้เคียงกับปี 2566 จากปัจจุบัน 35-36% 
  • เร็วๆ นี้จะเปิดตัวธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน Next Amazon ซึ่งอาจเป็นแบรนด์สินค้าใหม่มีเป้าความสำเร็จเหมือนกับ Amazon 

หลังจากที่บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR แยกออกจากบริษัทแม่และเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อปี 2564 ขณะนี้ OR เปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญเมื่อ ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) คนที่ 3 ต่อจากนายดิษทัต ปันยารชุน เมื่อเดือน ธ.ค.2567

ม.ล.ปีกทอง เปิดตัวกับสื่อมวลชนครั้งแรกในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2568 โดยประกาศวิสัยทัศน์ในโอกาสที่ได้เข้ารับตำแหน่งว่าจะสานต่อวิสัยทัศน์ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” หรือ “Empowering All toward Inclusive Growth” พร้อมเน้นย้ำถึงการต่อยอดนโยบาย OR SDG ที่มุ่งสร้างสมดุลในทุกมิติ ประกอบด้วย 

1.ด้าน S: Small การสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย 2.ด้าน D: Diversified การลงทุนในธุรกิจที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักของ OR และ 3. ด้าน G: Green การดูแลสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมา OR ได้สร้างผลงานที่โดดเด่น อาทิ การยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนผ่านโครงการไทยเด็ด

การสนับสนุนผู้เปราะบางทางสังคมผ่าน Café Amazon for Chance รวมถึงการติดตั้ง Solar Roof ในสถานีบริการ PTT Station ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2030 และ Net Zero ในปี 2050

OR ปั้น ‘เน็กซ์อเมซอน’ เปลี่ยนผ่านฟอสซิล  ลุยธุรกิจ \'เฮลท์-เวลล์เนส\'

ส่วนในด้านการขับเคลื่อนธุรกิจ OR จะมุ่งเน้นการใช้ Digitalization & Innovation เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ โดยที่ผ่านมา OR ถือเป็นบริษัทแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำระบบ SAP S/4 HANA มาใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันและค้าปลีก

พร้อมทั้งมีแผนที่จะพัฒนา Control Tower Dashboard เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและตัดสินใจทางธุรกิจ โดยมุ่งเสริมความเข้มแข็งใน 3 พันธกิจสำคัญ ได้แก่

1.Seamless Mobility มุ่งเสริมความเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมันผ่านการขยายเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station ที่มีอยู่ 2 พันกว่าแห่ง และเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาสู่พลังงานทางเลือก เช่น สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ และการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ 

สำหรับการดำเนินการตามแผนดังกล่าวจะใช้กลยุทธ์ Thailand Mobility Partner ในการเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจน้ำมัน (Fossil Based) สู่ธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (New Energy-Based)

2.ธุรกิจ All Lifestyles มุ่งเสริมความแข็งแกร่งของ Café Amazon ตลอด Value Chain พร้อมแสวงหาโอกาสการลงทุนร่วมกับพันธมิตรในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น รวมถึงเริ่มศึกษาธุรกิจ Health & Wellness ที่มีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์กระจายพอร์ทการลงทุน (Diversify Portfolio)

เดินหน้าขยายการลงทุนต่างประเทศ

3.ธุรกิจ Global Market ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพสูง โดยมีแผนลงทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งในโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศ และบริษัทได้กำหนดให้ประเทศกัมพูชาเป็นบ้านหลังที่ 2 ของ OR ซึ่งบริษัทมีแผนการลงทุนขยายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station และร้าน Café Amazon เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ OR จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนองค์กรอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งผลักดันประเทศไทยเข้าสู่การเป็น Oil Hub แห่งภูมิภาค เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในไทยหลายแห่ง คิดเป็นกำลังการกลั่นรวมกันอยู่ที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจรในการเชื่อมโยงเครือข่ายด้านน้ำมันระหว่างประเทศ

ดังนั้นจึงนับเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกน้ำมันในภูมิภาคนี้ รวมทั้งให้มีการสร้าง New Magnet เพื่อยกระดับระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่ง โดยจะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์การเติมเต็มโอกาส เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เพิ่มมาร์เก็ตแชร์ค้าปลีกน้ำมันแตะ38%

รวมทั้ง OR ยังได้ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมัน (มาร์เก็ตแชร์) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 38% ในปีนี้ ซึ่งจะใกล้เคียงกับปี 2566 จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 35-36% โดยจะมีกิจกรรมการตลาดเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการในสถานีน้ำมัน PTT Station มากขึ้น 

รวมถึงการแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่เสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจ Lifestyle พร้อมตั้งเป้าผลการดำเนินงานเติบโต 3% ตาม GDP ประเทศ หรืออาจมากกว่าหากความมั่นใจของผู้บริโภคกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น

“ในปีนี้ OR ตั้งเป้ารายได้เติบโตใกล้เคียงกับ GDP ที่ระดับ 2-3% ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเคยยโตถึงระดับ 3-4% โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจ Mobility และLifestyle และธุรกิจที่จะต่อยอดออกไปอีก” ม.ล.ปีกทอง กล่าว

อย่างไรก็ดี แผนลงทุน 5 ปี ของ OR (ปี 2568-2572) ได้กำหนดงบประมาณลงทุนจำนวน 60,404 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณลงทุนของปี 2568 อยู่ที่ 19,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับขยายการลงทุนในธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Mobility 7,600 ล้านบาท ธุรกิจ Lifestyles ประมาณ 7,300 ล้านบาท 

ในขณะที่ส่วนที่เหลือของงบประมาณลงทุนจะอยู่ในกลุ่มธุรกิจ Global และธุรกิจใหม่ พร้อมเร่งสร้างเชื่อมั่นเพื่อดึงมาร์เก็ตแชร์ให้กลับมาใกล้เคียงเดิม

เตรียมเปิดตัว Next Amazon

ม.ล.ปีกทอง กล่าวว่า เร็วๆ นี้จะเปิดตัวธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน Next Amazon โดยจะทำให้ธุรกิจของ OR เติบโตและอยู่ได้เหมือนกับ Amazon ที่ปัจจุบันต่อยอดเติบโตดีได้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นแบรนด์สินค้าใหม่ที่มีเป้าหมายความสำเร็จเหมือนกับ Amazon ซึ่งจะเป็นอะไรก็จะต้องรอติดตามเร็วๆ นี้

รายงานข่าวระบุว่า แบรนด์ Amazon ถือว่าประสบความสำเร็จที่เป็นธุรกิจเรือธงในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2545 โดยจุดเริ่มต้นมาจากแนวความคิดของอดีตผู้บริหารของกลุ่ม ปตท. คือ นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร 

ทั้งนี้ช่วงนั้นปั๊มน้ำมัน ปตท.ยังไม่มีธุรกิจเสริม และมีเพียงร้านสะดวกซื้อบางสาขา จากเริ่มแรกขายได้เพียง 20 แก้วต่อวัน จนกระทั่งเมื่อเปิดสาขาในปั๊มขยายตัวต่อเนื่อง จึงหันมาเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอนนอกปั๊มน้ำมัน โดยในช่วง 9 เดือน แรกของปี 2567 มียอดขาย 299 ล้านแก้ว หรือมากกว่าวันละ 1 ล้านแก้ว รวมทั้งมีการขยายสาขาไปต่างประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา

ในขณะที่อีโคซิสเต็มส์ธุรกิจกาแฟของ OR ขยายตัวต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีการลงทุนโรงคั่วกาแฟเป็นของตนเอง มีกำลังการผลิต 2,700 ตันต่อปี รวมทั้งลงทุนศูนย์กระจายสินค้าที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

เน้นสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน

ม.ล.ปีกทอง กล่าวว่า ในการขับเคลื่อนองค์กรในยุคที่มีความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ จะต้องสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตในทุกมิติ ทั้งด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

สำหรับสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปรับแนวความคิดการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการ ‘They grow We grow’ โดยจะสร้างความเชื่อมั่นและการสื่อสารที่ใกล้ชิดผ่านโครงการ ‘CEO on tour’ เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ พนักงาน พันธมิตรและนักลงทุน

“ส่วนการดำเนินธุรกิจที่ OR ได้ลงทุนในเมียนมาซึ่งก่อนหน้านี้มีการลงทุนอยู่นั้น เป็นที่ทราบกันว่าด้วยภาวะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีการแซงชั่นเกิดปัญหาภูมิรัฐศาสตร์จึงต้องชะลอการลงทุนลงก่อน อย่างไรก็ตาม OR จะยังคงรักษาเสถียรภาพการดำเนินธุรกิจในจุดที่ให้ภูมิภาคเกิดสันติสุขที่สุด” ม.ล.ปีกทอง กล่าว