ราคาน้ำมันดิบลด 2% หลังหุ้นร่วงจากข่าว DeepSeek

ราคาน้ำมันดิบลด  2% หลังหุ้นร่วงจากข่าว DeepSeek

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงประมาณ 2% ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงกดดันจากการที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงานของวอลล์สตรีทร่วงลงแรง ขณะที่นักลงทุนพยายามหาที่หลบภัย หลังจากข่าวนักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้นในโมเดลปัญญาประดิษฐ์ต้นทุนต่ำของ DeepSeek ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพของจีน

รอยเตอร์สรายงานภาวะตลาดน้ำมันโลกวันจันทร์(27 ม.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบลดลงแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่อ่อนแอ และความกังวลว่ามาตรการภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เสนออาจกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน

    ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาล่วงหน้าร่วงลง 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 77.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันจันทร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ของสหรัฐ ลดลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 73.17 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์กล่าวว่าราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ทรัมป์เรียกร้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ลดราคาน้ำมันลง

บ็อบ ยาวเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายล่วงหน้าด้านพลังงานของบริษัทมิซูโฮ ระบุในรายงานว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงกดดันโอเปกอย่างต่อเนื่อง โดยเรียกร้องให้กลุ่มผู้ผลิตลดราคาน้ำมันเพื่อช่วยยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน”

โอเปกและพันธมิตร รวมถึงรัสเซียในกลุ่มโอเปกพลัส ยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำเรียกร้องของทรัมป์ โดยผู้แทนโอเปกพลัสชี้ไปที่แผนเดิมที่จะเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนเมษายน

  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้กล่าวปราศรัยต่อบรรดาผู้นำโลกในการประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดี โดยสัญญาว่าการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของเขาจะละทิ้งบรรทัดฐานตลาดเสรีทั้งภายในและนอกสหรัฐ

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐ ได้ขู่และพลิกกลับแผนการคว่ำบาตรและเก็บภาษีกับโคลอมเบียอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ตกลงที่จะรับผู้อพยพที่ถูกเนรเทศออกจากสหรัฐ

ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ Kpler แสดงให้เห็นว่าเมื่อปีที่แล้ว โคลอมเบียส่งออกน้ำมันดิบทางทะเลประมาณ 41% ไปยังสหรัฐ ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้น้ำมันยังคงไหลออกสู่ตลาดต่อไป ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาน้ำมันดิบในวันจันทร์

“ตลาดมีทัศนคติเชิงลบในวงกว้าง แม้ว่าจะไม่มีการคว่ำบาตรเกิดขึ้น แต่สิ่งนี้ยังคงสร้างความกังวลว่าทรัมป์จะรังแกใครก็ตามที่ต้องถูกรังแกเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ” บียาร์เน ชีลดรอป หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร SEB กล่าว

ในจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ ข้อมูลการผลิตอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ทำให้เกิดความกังวลใหม่เกี่ยวกับความต้องการพลังงาน

“ข้อมูลที่อ่อนแอตอกย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินนโยบายเพิ่มเติมเพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ” นักวิเคราะห์จากธนาคาร Citibank กล่าวในรายงาน

แอปผู้ช่วย AI ของบริษัทสตาร์ทอัพจีน DeepSeek แซงหน้า ChatGPT ของบริษัทสหรัฐซึ่งเป็นคู่แข่ง และกลายเป็นแอปพลิเคชันฟรีที่มีอันดับความนิยมสูงสุดในร้านแอป ของ Apple เหตุการณ์นี้ทำให้บรรดานักลงทุนที่ทุ่มเงินให้กับบริษัทพลังงานของสหรัฐต่างเกิดความกังวล จากที่เคยมีความหวังว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยขับเคลื่อนความต้องการพลังงานเพื่อขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูล

ในเยอรมนี ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ข้อมูลจากสถาบัน Ifo แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจดีขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนมกราคม เนื่องจากการประเมินเศรษฐกิจเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่าบริษัทหลายแห่งยังคงมีมุมมองในเชิงลบก่อนการเลือกตั้ง

“การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของตัวชี้วัดสำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเยอรมนียังไม่ได้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ ในทางกลับกัน เศรษฐกิจยังคงติดอยู่ในภาวะซบเซาโดยมีความเสี่ยงด้านลบมากกว่าด้านบวกในระยะสั้น” นักวิเคราะห์จากธนาคาร ING กล่าวในรายงาน