Mycoprotein โอกาสพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารไทยในยุคใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันการสูญเสียอาหารและขยะจากอาหาร (Food Loss and Food Waste) ของโลกมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของปริมาณอาหารที่ผลิตทั้งหมดในโลก อีกทั้งยังทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 4.5 พันล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
หลายประเทศทั่วโลกตระหนักถึงปัญหานี้ จึงได้พยายามหาแนวทางแก้ไข โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำ Food Loss and Food Waste มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยหนึ่งในแนวทางที่น่าสนใจ คือ การผลิตโปรตีนทางเลือกจากการหมักจุลินทรีย์ (Mycoprotein) ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Subsector ของอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตที่ภาครัฐให้การสนับสนุนในพื้นที่ EEC สะท้อนได้จากการจัดตั้งเมืองนวัตกรรมอาหาร ในพื้นที่โครงการวังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต คำถามที่น่าสนใจตามมาคือ หากผู้ประกอบการอาหารของไทยมีการนำ Food Loss and Food Waste มาผลิตเป็น Mycoprotein จะสร้างโอกาสอย่างไรได้บ้าง?
Krungthai COMPASS ประเมินว่าการผลิต Mycoprotein จะสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทย 2 ประการ ได้แก่ โอกาสที่หนึ่ง ช่วยสร้างกำไรให้ผู้ประกอบการผลิตอาหาร โดยหากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารนำ Food Loss and Food Waste มาต่อยอดสู่การผลิต Mycoprotein จะช่วยให้ผู้ประกอบการอาหารมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น หากผู้ประกอบการผลิตน้ำมันถั่วเหลือง นำกากถั่วเหลืองมาใช้ผลิต Mycoprotein ประเมินว่าจะทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 26% จากเดิมที่ 7%
โอกาสที่สอง ช่วยการลด Food Loss and Food Waste และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทย หากผู้ประกอบการที่มีความสามารถในการผลิต Mycoprotein นำ Food Loss and Food Waste ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนถึง 18 ล้านตัน มาผลิตเป็น Mycoprotein ที่ตั้งไว้ตามเป้าหมายในแผนขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน พ.ศ. 2560-2579 ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายที่จะลด Food Loss and Food Waste ให้ได้ 5.0% ของแต่ละปี จะช่วยลด Food Loss and Food Waste ในอุตสาหกรรมอาหารได้ถึงปีละ 9 แสนตัน และจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ถึง 1.2 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
โดยสรุปแล้ว การนำ Food Loss and Food Waste มาผลิตเป็น Mycoprotein จะเป็นโอกาสในการนำ Food Loss and Food Waste มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังช่วยตอบโจทย์แนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศ อย่างไรก็ตาม ในการที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารที่มีความสามารถในการผลิต Mycoprotein จาก Food Loss and Food Waste ควรสร้างการรับรู้ด้านคุณประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภค ทั้งยังต้องพัฒนาระบบในการจัดการ Food Loss and Food Waste เพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิต Mycoprotein ได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ภาครัฐควรมีบทบาทสำคัญในการวิจัยพัฒนา และส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ เพื่อให้ประเทศสามารถจัดการกับ Food Loss and Food Waste ได้อย่างยั่งยืน