เปิดลิสต์ ‘ทรัมป์ 2.0’ ทำทันที ‘เอกชน’ แนะรัฐบาลตั้งทีมเจรจาลดผลกระทบ

“โดนัลด์ ทรัมป์” เผย มีแผนลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากที่สุดกว่าร้อยฉบับ “ทันที” หลังแสดงสุนทรพจน์รับตำแหน่ง “อัทธ์”มอง 3 นโยบายเร่งด่วน สรท.คาดขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทย 10-20% บางรายการ โดยระยะเวลาไม่เท่ากัน จี้รัฐบาลประสานเอกชนหามาตรการรับมือให้เหมาะสม
เมื่อราวปีเศษ “โดนัลด์ ทรัมป์” เคยกล่าวว่า เขาจะเป็น “เผด็จการ” แค่เฉพาะ 24 ชั่วโมงแรกที่รับตำแหน่งเท่านั้น วันนี้ (20 ม.ค.68) เป็นวันสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี แผนการต่างๆ ของทรัมป์ว่าจะทำอะไรในวันแรกชัดเจนมากขึ้น
"ทรัมป์"กล่าวกับเอ็นบีซีนิวส์ เมื่อวันเสาร์ (18 ม.ค.68) ตามเวลาท้องถิ่นว่า จะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารทันทีหลังรับตำแหน่งในวันจันทร์ โดยไม่ได้ระบุจำนวนคำสั่ง แต่จะ “ทุบสถิติ”
เอ็นบีซีถามว่าจะเกิน 100 หรือไม่ ทรัมป์กล่าว “อย่างน้อยก็ประมาณนั้น” คาดว่า ทรัมป์จะลงนามคำสั่งยกเลิกหลายนโยบายที่คืบหน้าในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งสิ่งที่ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะทำตั้งแต่วันแรกรวมถึงโครงการเนรเทศผู้อพยพจำนวนมากด้วย
ทรัมป์กล่าวกับเอ็นบีซีในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า การขับคนลักลอบเข้าเมืองจะ “เริ่มต้นเร็วสุดๆ ผมบอกไม่ได้ว่าเมืองใดบ้างเพราะเหตุการณ์กำลังเปลี่ยนแปลง และผมไม่คิดว่าเราอยากพูดว่าเมืองไหน คุณต้องไปเห็นเอง"
ทรัมป์มาถึงวอชิงตันในวันเสาร์ เริ่มเทศกาลสาบานตนด้วยงานส่วนตัวจุดพลุเฉลิมฉลองที่กอล์ฟคลับของเขาในรัฐเวอร์จิเนียนอกวอชิงตัน
ด้านเว็บไซต์ไทม์รายงาน ทรัมป์บอกกับสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันว่า เขากำลังเตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารราว 100 ฉบับในวันแรกที่เป็นประธานาธิบดี ตั้งเป้าแก้ไขกฎหมายที่ออกในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างรวดเร็ว
ทรัมป์ เคยกล่าวมาหลายเดือนถึงมาตรการที่ตั้งใจทำตั้งแต่วันแรก เช่น ปิดพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก, ยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน, อภัยโทษนักโทษดีคดี 6 ม.ค. และอื่นๆ
“คอยดูนะ ผมสามารถลบล้างเกือบทุกอย่างที่ไบเดนทำผ่านการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร สิ่งเหล่านั้นจำนวนมากจะถูกยกเลิกตั้งแต่วันแรก” ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์ไทม์ในเดือนพ.ย.
แม้คำมั่นสัญญาในวันแรกของทรัมป์สามารถบรรลุได้ด้วยการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร แต่บางเรื่องอาจต้องต่อรองกับสภาคองเกรสหลายเดือนหรือหลายปี โดยเฉพาะในประเด็นอย่างสิทธิพลเมืองด้วยการเกิด และคำสั่งรัฐบาลกลางว่าด้วยสิทธิบุคคลข้ามเพศ
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เมื่อได้เข้าไปนั่งในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวแล้วทรัมป์จะทำทุกสิ่งอย่างที่ลั่นวาจาไว้ทันทีหรือไม่ เว็บไซต์ไทม์ได้รวบรวมข้อมูลสิ่งที่ทรัมป์บอกว่าจะทำในวันแรกไว้ดังนี้
ปิดพรมแดน-ห้ามการเดินทางอีกครั้ง
ทรัมป์มีแผนยกเครื่องการตรวจคนเข้าเมือง ลั่นวาจาปิดพรมแดนภาคใต้ ห้ามการเดินทางอีกครั้ง ระงับการขอลี้ภัยเข้าสหรัฐ ทั้งหมดนี้กระทำโดยการออกคำสั่งฝ่ายบริหารทันทีหลังสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี
ทรัมป์กล่าวว่า ตั้งใจ “ปฏิบัติการเนรเทศครั้งใหญ่สุด” ในประวัติศาสตร์สหรัฐในวันแรกของการทำงานในทำเนียบขาว เน้นการโยกย้ายอาชญากร, คนที่เพิ่งข้ามพรมแดนเข้ามา และคนที่ถูกศาลสั่งเนรเทศ
ภายใต้ระบบที่ทรัมป์เสนอ งานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางหลายส่วนจะถูกย้ายไปเป็นหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และยกเลิกซีบีพีวัน แอปพลิเคชันตรวจคนเข้าเมืองที่ออกมาใช้ในสมัยไบเดน
นอกจากนี้ทรัมป์ลั่นวาจายุติการได้สัญชาติด้วยการเกิด ซึ่งหมายความว่าลูกของคนลักลอบเข้าเมืองจะไม่ได้เป็นพลเมืองอเมริกันอัตโนมัติ คาดว่าความเคลื่อนไหวนี้จะถูกท้าทายทางกฎหมายทันที
อภัยโทษคดี 6 ม.ค.2021
คำสัญญาที่เป็นส่วนตัวมากที่สุดอย่างหนึ่งของทรัมป์คือ บอกว่าจะอภัยโทษคนที่ถูกดำเนินคดีในการจลาจลบุกรัฐสภาวันที่ 6 ม.ค.2021 เพราะไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่โจ ไบเดนเป็นฝ่ายชนะ โดยทรัมป์ กล่าวเสมอว่าจะดำเนินรวดเร็วอภัยโทษให้ผู้ต้องคดีอาญากว่า 1,500 คน
“ผมจะทำเรื่อง 6 ม.ค.ก่อน บางทีอาจทำตั้งแต่เก้านาทีแรก” ทรัมป์เผยกับไทม์ในเดือนธ.ค.ว่ารัฐบาลของเขาจะทำอะไรช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
แน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และอาจก่อให้เกิดการต่อสู้กันทางการเมือง
ยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ระหว่างหาเสียงทรัมป์กล่าวหลายครั้งว่า จะยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนก่อนรับตำแหน่ง โดยความขัดแย้งรุนแรงดำเนินมาเกือบ 3 ปีนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนก.พ.2022
“ถ้าผมเป็นประธานาธิบดีจะทำให้สงครามจบในวันแรก, 24 ชั่วโมง ต้องจบสนิท” ทรัมป์กล่าวในเวทีทาวน์ฮอลล์ของ CNN เมื่อเดือนพ.ค.2023 และย้ำอีกครั้งในการประชันวิสัยทัศน์ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือน ก.ย.2024 โดยอ้างความสัมพันธ์ที่มีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน จะช่วยให้เขาเป็นคนกลางสร้างสันติภาพระหว่างสองชาติได้
“ผมจะทำให้มันจบตั้งแต่ก่อนเป็นประธานาธิบดี ตอนเป็นว่าที่ประธานาธิบดีด้วยซ้ำ ผมจะคุยกับคนหนึ่ง คุยกับอีกคนหนึ่ง แล้วเอาพวกเขามาคุยกัน”
แต่หลังชนะเลือกตั้ง ดูเหมือนทรัมป์จะถอยจากสิ่งที่เคยพูดเอาไว้ “ผมหวังว่าต้องใช้เวลาหกเดือน”
ในการแถลงข่าวครั้งหนึ่งของเดือนม.ค. ผู้สื่อข่าวถามว่า เขาจะแก้ไขความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนได้เร็วแค่ไหน “ผมหวังว่าจะจบได้เร็วก่อนหกเดือน” ทรัมป์ตอบ
ยุติบังคับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า-นโยบายกรีนนิวดีล
ทรัมป์ กล่าวว่า วันแรกของการทำงานจะยกเลิกนโยบายเกี่ยวกับสภาพอากาศหลายฉบับที่ออกโดยรัฐบาลไบเดน เช่น ยุติการบังคับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหมายถึงระเบียบใหม่ของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมที่จำกัดมลพิษจากท่อไอเสีย ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องขายรถยนต์ไฟฟ้า และไฮบริดมากขึ้น
ทรัมป์ กล่าว ในการหาเสียงเดือนต.ค.ว่า นโยบายเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ “การหลอกลวงสีเขียวใหม่” ที่ทำร้ายผู้ผลิตพลังงานอเมริกัน และครอบครัว
สำหรับคำสั่งฝ่ายบริหารที่จะออกตั้งแต่วันแรกจะเน้นการยกเลิกกฎหมายการผลิตพลังงานฟอสซิล ยกเลิกการบังคับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันเขายังให้คำมั่นขยายการขุดเจาะน้ำมันภายในประเทศ ยกเลิกคำสั่งห้ามขุดเจาะนอกชายฝั่งของรัฐบาลปัจจุบัน
“อัทธ์” มอง 3 นโยบายเร่งด่วนของทรัมป์
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และอาเซียนที่ปรึกษาบริษัท อินเทลลิเจนท์ รีเสิร์ช คอนซัลแตนท์ (ไออาร์ซี) จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ 100 วันแรก ของโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะเซ็นคำสั่งผู้บริหาร (EOs) 100 ฉบับ และนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ “America First” (ทรัมป์ 1.0 ออก EOs 220 ฉบับ)
สำหรับ คำสั่ง EOs หลัก คือ ปิดชายแดนเม็กซิโก และเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย การค้า พลังงาน เทคโนโลยี และยกเลิกความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกัน (Diversity Equity and Inclusion) โดยคำสั่งของทรัมป์คาดว่าจะมีหลายประเด็น แต่หลักๆ ที่เร่งด่วนมี 3 เรื่องคือ
1.ปิดชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก และส่งคนกลับ ปัจจุบันคนเข้าสหรัฐ มีประมาณ 50 ล้านคน (ทั้งมีเอกสาร และไม่มีเอกสาร) ร้อยละ 30 เป็นคนเม็กซิโก ตามด้วยจีน อินเดีย สำหรับอาเซียน เป็นฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รัฐแคลิฟอร์เนีย แอริโซนา นิวเม็กซิโก และเท็กซัส ติดกับเม็กซิโกมีพรมแดน 3 พันกิโลเมตร 1,200 กม. ติดกับเม็กซิโกมากสุด
2.ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั่วโลก 10 % สินค้าทั่วโลก 60-100 % สินค้าจีน 25 % สินค้าแคนาดา และเม็กซิโก 100 % สินค้ากลุ่ม BRICS 150-200 % สินค้าจีนหากจีนบุกไต้หวัน หรืออาจจะทยอยขึ้นภาษี ทำให้สินค้าจีนเข้าสหรัฐลดลงไป 12-15 % GDP จีนลดลง 0.9-1.1 % (BBVA Research November 2024) GDP จีนเหลือ 4.1 % และ GDP สหรัฐ ลดลง 0.5-1.0 % (Pinebridge Investments 1 November 2024)
3.นโยบายพลังงาน ทรัมป์จะยกเลิกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ Green New Deal ซึ่งทรัมป์เรียกว่า “Green New Scam” โดยออกจากข้อตกลงปารีส ยกเลิกพลังงานสะอาด รถยนต์ EV ยกเลิก Zero Emission ในปี 2050 ยกเลิกการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกตะวันออก ชายฝั่งวอชิงตัน ออริกอน และแคลิฟอร์เนียในพื้นที่ 625 ล้านเอเคอร์ (1.5 พันล้านไร่)
สรท.แนะรัฐบาลตั้งทีมเจรจาภาษี
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ประเมินว่าหากสหรัฐจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าน่าจะอยู่ในกรอบ 10-20% แต่คงไม่ได้ขึ้นทุกตัวทั้งหมดน่าจะมีการขึ้นโดยดูสินค้าแต่ละตัว และการขึ้นภาษีสินค้าในแต่ละตัวระยะเวลาอาจจะไม่เท่ากันเหมือนที่ผ่านมา
ดังนั้นการขึ้นภาษีจะมีระยะเวลาการเจรจา และการชี้แจงด้านของแหล่งกำเนิดสินค้าที่รวมถึงวัตถุดิบผู้ประกอบการจะต้องมีข้อมูลประกอบด้านการตรวจสอบย้อนกลับ
สำหรับสินค้าของประเทศไทยที่ส่งออกไปอเมริกาส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า และ ยางล้อรถ ซึ่งน่าถูกเก็บภาษี อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ผู้ส่งออกเห็นว่า จะต้องมีการทำงานประสานกันระหว่างภาครัฐเอกชนไม่ว่าจะเป็นการประชุม กรอ. พาณิชย์หรือแม้แต่การจัดประชุม war room เพื่อประเมินติดตามวิเคราะห์ และออกมาตรการให้เหมาะสมทันเวลา
สำหรับผู้ประกอบการเองจะต้องเตรียมตัวในด้านของการประสานงานกับคู่ค้าต่างประเทศ ผู้นำเข้าของอเมริกาด้วยเช่นกัน และวางแผนด้านวัตถุดิบการผลิตอย่างใกล้ชิดรวมทั้งต้องเร่งการลดต้นทุนเพราะคู่ค้าจะมีการเจรจาให้มีการปรับราคาลดลง
ดังนั้นภาคการผลิตจะต้องระมัดระวังเรื่องต้นทุนเป็นพิเศษ และเพิ่มขีดความสามารถด้านบุคลากรให้มากขึ้น พร้อมผลิตสินค้าต่างๆ ตามมาตรฐานที่ทางอเมริกากำหนดทุกประการ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์