'บ้านเพื่อคนไทย' ใครได้ประโยชน์ เปิดจองแล้ววันนี้ เตรียมเข้าอยู่ปี 69

“บ้านเพื่อคนไทย” นโยบายเรือธงรัฐบาลใครได้ประโยชน์บ้าง ? หลังเปิดเฟสแรกกว่า 4 พันยูนิต ประชาชนลงทะเบียนยื่นจำนงผ่าน www.บ้านเพื่อคนไทย.th “คมนาคม” ตั้งเป้าประกาศผู้รับสิทธิ์ภายใน 3 เดือนนี้ พร้อมเร่งสร้างทันทีเข้าอยู่ในปี 2569
KEY
POINTS
- “บ้านเพื่อคนไทย” นโยบายเรือธงรัฐบาลใครได้ประโยชน์บ้าง ? หลังเปิดเฟสแรกกว่า 4 พันยูนิต ประชาชนลงทะเบียนยื่นจำนงผ่าน www.บ้านเพื่อคนไทย.th มากกว่า 20 ล้านคน ประชาชนเดินทางมายังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเข้าชมบ้านตัวอย่างมากกว่า 2,000 คน
- “คมนาคม” ตั้งเป้าประกาศผู้รับสิทธิ์ครอบครองบ้านภายใน 3 เดือนนี้ พร้อมเร่งสร้างทันทีทยอยเข้าอยู่ในปี 2569 ย้ำห้ามโอนกรรมสิทธิ์ 5 ปี ห้ามขายให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ เว้นแต่เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ของสมาชิกในครอบครัว
“แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด “บ้านเพื่อคนไทย” ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาลในปีนี้ และได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม โดย 1 ชั่วโมงแรกของการเปิดเว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th มีประชาชนเข้าระบบยื่นความจำนงเป็นเจ้าของบ้านเพื่อคนไทยมากถึง 12 ล้านคน และตลอดทั้งวันมากกว่า 20 ล้านคน รวมทั้งยังมีประชาชนเดินทางมายังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเข้าชมบ้านตัวอย่างมากกว่า 2,000 คน
สำหรับ โครงการบ้านเพื่อคนไทย รัฐบาลคัดเลือกที่ดินที่มีศักยภาพอยู่ใกล้กับระบบขนส่งทางรางมากถึง 112 โครงการ ซึ่งระยะที่ 1 ได้คัดเลือกที่ดินศักยภาพสูงในการพัฒนาโครงการรวม 4 พื้นที่ สามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยทั้งในรูปแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมบนทำเลที่มีศักยภาพ สะดวกต่อการเดินทางโดยระบบสาธารณะ ตอบโจทย์ตามความต้องการของประชาชน ได้แก่
- พื้นที่ กม.11 (วิภาวดี) ขนาด 14 ไร่ 23,354 ตารางเมตร
- พื้นที่ธนบุรี ขนาด 21 ไร่ 35,060 ตารางเมตร
- พื้นที่เชียงใหม่ ขนาด 7 ไร่ 12,746 ตารางเมตร
- พื้นที่เชียงราก ขนาด 6 ไร่ 11,000 ตารางเมตร
โครงการบ้านเพื่อคนไทย มีรูปแบบโครงการที่พักอาศัย ในระยะแรก 2 ประเภท ได้แก่
1.คอนโดมิเนียม แบ่งเป็น
ห้องพัก 30 ตารางเมตร (1 ห้องนอน)
ห้องพัก 40 ตารางเมตร (2 ห้องนอน)
ห้องพัก 45 ตารางเมตร (2 ห้องนอน)
ห้องพัก 51 ตารางเมตร (2 ห้องนอน)
2.บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาด 50 ตารางเมตร บนที่ดิน 50 ตารางวา
กำหนดคุณสมบัติของผู้ซื้อสิทธิ โครงการบ้านเพื่อคนไทย
- ผู้ซื้อสิทธิ 1 ท่าน มีสิทธิจองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างได้ 1 หน่วย ต่อ 1 โครงการเท่านั้น แต่หากการพิจารณาให้สิทธิในโครงการใดเสร็จสิ้นไปแล้วและไม่ได้สิทธิ สามารถใช้สิทธิจองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอีกครั้งในจังหวัดเดิมได้
- ห้ามโอนสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทยภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันจดทะเบียนสิทธิ
- ห้ามนำอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างในโครงการบ้านเพื่อคนไทยไปให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ หรือทำนิติกรรมในลักษณะที่เป็นการต่างตอบแทนเพื่อให้บุคคลอื่นได้ใช้ประโยชน์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง เว้นแต่เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ของสมาชิกในครอบครัวของผู้ซื้อสิทธิ
- หากความปรากฏว่าผู้ซื้อสิทธิขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง โดยขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย บอกเลิกสัญญา หรือปรับอัตราผลตอบแทนตามเหตุและปัจจัย
- หากความปรากฏว่าผู้ซื้อสิทธิมีพฤติการณ์ปรากฏให้เห็นหรือเชื่อได้ว่าเป็นผู้มีรายได้เกินกว่า 50,000 บาท ต่อเดือน ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย บอกเลิกสัญญา หรือปรับอัตราผลตอบแทนตามเหตุและปัจจัย
- เงื่อนไขอื่นเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
- สงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขใดๆ ดังกล่าวข้างต้น
ขั้นตอนแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทย
- เข้า www.บ้านเพื่อคนไทย.th
- กดปุ่ม “ลงทะเบียน” กรอกข้อมูลแล้ว กดปุ่ม “ยืนยัน”
- ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ ผ่าน (OTP)
- เมื่อยืนยันเสร็จ ระบบจะพาไปยังหน้า ขอสินเชื่อของ ธอส. กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย
- เมื่อได้รับสิทธิ จะมี SMS แจ้งกลับ ไปที่เบอร์ที่ใช้ลงทะเบียน
- Login เข้าสู่ระบบ เพื่อเช็คสิทธิ
- กรอกเลขบัตรประชาชน เพื่อตรวจสอบสิทธิ ได้ที่ www.บ้านเพื่อคนไทย.th
“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลเปิดให้ประชาชนยื่นความจำนงเพราะต้องการรู้ดีมานด์ที่ประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัย และต้องการเข้าร่วมโครงการนี้ โดยเป้าหมายในวาระรัฐบาลนี้ ต้องการให้ประชาชนเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 300,000 คน ดังนั้นโครงการบ้านเพื่อคนไทยจึงมีเป้าหมายจะก่อสร้างที่อยู่อาศัยรวม 300,000 ยูนิต ซึ่งระยะแรกนี้จะดำเนินการก่อสร้างประมาณ 5,000 ยูนิต บนที่ดินที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า ประชาชนเดินทางสะดวก
“สุรพงษ์ ปิยะโชติ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า ภายหลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแจ้งความจำนงผ่านเว็บไซต์ เมื่อมีจำนวนการลงทะเบียนจำนวนมากแล้ว จะมีการประกาศปิดลงทะเบียน และนำข้อมูลของผู้ลงทะเบียนมาเข้าระบบจับสลาก ซึ่งจะดำเนินการโดย “สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลผู้ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านเพื่อคนไทยภายใน 3 เดือนหลังจากนี้ และเริ่มทำการก่อสร้างโครงการทันทีเพื่อให้ประชาชนทยอยเข้าอยู่อาศัยภายในปี 2569
อย่างไรก็ดี ตนยืนยันว่าทุกขั้นตอนดำเนินการจะโปร่งใส และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย การจับสลากจะจัดทำโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ขณะที่การก่อสร้างจะมีการจัดหาผู้รับเหมาด้วยกระบวนการตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นข้อกำหนดรายได้เป็นผู้มีรายได้เกินกว่า 50,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นกรอบเงินเดือนที่สูงนั้น รัฐบาลขอชี้แจงว่าการกำหนดเงื่อนไขเหล่านี้เพื่อให้ประชาชนที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยพร้อมกับมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังมีเงินเหลือใช้เพื่อไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
โดยโครงการบ้านเพื่อคนไทย สามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องได้หลายด้าน โดยสามารถแบ่งผลประโยชน์ออกเป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่
ประชาชน
- ได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เพื่อเริ่มต้นสร้างความมั่นคง สร้างครอบครัว
- ได้อยู่ใกล้ระบบขนส่งทางราง สะดวกสบาย ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA)
- ได้พัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟให้เกิดประโยชน์ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
- ขยายภารกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย เสริมสร้างรายได้ให้บริษัทไม่เป็นภาระแก่ รฟท.
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
- ได้พัฒนาให้มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ non – core
- ได้รับค่าเช่าพื้นที่รวมสูงกว่าการปล่อยเช่าให้บุคคลภายนอก
- เพิ่มมูลค่าที่ดินโดยรอบสถานี
- เพิ่มกลุ่มผู้โดยสารระบบขนส่งทางราง
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ได้ส่งเสริมประชาชนให้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
- ได้ขยายพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ
นอกจากนี้ในส่วนของรัฐบาลโครงการนี้ยังสามารถสร้างความมั่นคงให้ประชาชน ด้านการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และได้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เพิ่ม GDP ของประเทศ