เปิด 10 อันดับ โรงงานน้ำตาล รับอ้อยเผาไฟสูงสุด เมินปัญหา PM2.5

เปิด 10 อันดับ โรงงานน้ำตาล รับอ้อยเผาไฟสูงสุด เมินปัญหา PM2.5

เปิดสถิติ 10 อันดับ โรงงานน้ำตาล ยังรับซื้ออ้อยเผาสูงที่สุด ไม่สนใจปัญหาฝุ่น PM 2.5 สร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย   

KEY

POINTS

  • ปัจจุบันปัญหา PM2.5 สร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย ส่วนหนึ่งจากการเผาไร่อ้อยในฤดูเก็บเกี่ยวอ้อยเข้าหีบ
  • กอน. ออกมาตรการจูงใจให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวอ้อยสด 100% ผ่านกลไกการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับใบและยอดอ้อย
  • กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอของบประมาณจากรัฐบาลประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยชาวไร่อ้อยจะมีรายได้เพิ่มประมาณ 120 บาทต่อตันอ้อย
  • โรงงานน้ำตาล 58 แห่งทั่วประเทศรวมวันเปิดหีบ 42 วัน พบว่า มีอ้อยเข้าหีบรวม 33,710,317 ตัน แบ่งเป็นอ้อยสด 27,401,241 ตัน และอ้อยไฟไหม้ 6,309,075 ตัน

ปัจจุบันปัญหา PM2.5 ได้สร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าส่วนหนึ่งที่สำคัญมาจากปัญหาการเผาไหม้ของผืนป่าและการเผาไร่อ้อยของชาวเกษตรกรในฤดูเก็บเกี่ยวอ้อยเข้าหีบในช่วงปลายปีถึงถึงต้นปีถัดไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (บอร์ด กอน.) มีมติออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นมาตรการรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากมาตรการในอดีตที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยลดการลักลอบเผาอ้อยได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่ามาตรการใหม่นี้จะสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด 100% ผ่านกลไกการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับใบและยอดอ้อย

โดยเกษตรกรชาวไร่อ้อยจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายใบและยอดอ้อย โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอของบประมาณจากรัฐบาลประมาณ 7,000 ล้านบาท เพื่อให้การสนับสนุนและดูแลเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่เก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี โดยชาวไร่อ้อยจะมีรายได้เพิ่มประมาณ 120 บาทต่อตันอ้อย และถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีการแจ้งมาตรการก่อนการเปิดหีบอ้อย

อย่างไรก็ดี บอร์ด กอน. ยังได้มีมติเห็นชอบมาตรการป้องปรามการลักลอบเผาอ้อย โดยกำหนดให้หักเงินชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยถูกลักลอบเผาในแต่ละวันเป็นรายโรงงาน จากเดิมถูกหักเงินจำนวน 30 บาทต่อตันอ้อย เป็นถูกหักเงิน 30 - 130 บาทต่อตันอ้อย ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการลักลอบเผาอ้อยได้อย่างมีนัยสำคัญ 

อย่างไรก็ตาม จากสถิติการรับอ้อยเผารายวันของโรงงานน้ำตาล 58 แห่งทั่วประเทศ ณ วันที่ 16 มกราคม 2568 (รวมวันเปิดหีบ 42 วัน) พบว่า ปริมาณอ้อยเข้าหีบ ทั้งสิ้น 33,710,317.675 ตัน แบ่งเป็นปริมาณอ้อยสด 27,401,241.740 ตัน สัดส่วน 81.28% และอ้อยไฟไหม้ 6,309,075.935 ตัน สัดส่วน 18.72%

ทั้งนี้ ในสัดส่วนอ้อยเผาที่โรงงานน้ำตาลรับซื้อขณะนี้คิดเป็น 18.72% โดย 10 โรงงานที่รับซื้ออ้อยไฟไหม้สูงกว่าปริมาณรับซื้ออ้อยสด แบ่งเป็น

  • โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี รับซื้ออ้อยถูกเผา 51% 
  • โรงงานน้ำตาลที.เอ็น รับซื้ออ้อยถูกเผา 47% 
  • โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี รับซื้ออ้อยถูกเผา 43% 
  • โรงงานน้ำตาลขอนแก่น จ.ขอนแก่น รับซื้ออ้อยถูกเผา 36%
  • โรงงานน้ำตาลสิงห์บุรี รับซื้ออ้อยถูกเผา 34% 
  • โรงงานน้ำตาลระยอง (ชัยภูมิ) รับซื้ออ้อยถูกเผา 33%
  • โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ รับซื้ออ้อยถูกเผา 30% 
  • โรงงานน้ำตาลสหเรือง รับซื้ออ้อยถูกเผา 31%
  • โรงงานน้ำตาลไทยรุ่งเรืองคอร์ปอเรชั่น รับซื้ออ้อยถูกเผา 29%
  • โรงงานน้ำตาลอีสาน รับซื้ออ้อยถูกเผา 29% 

สำหรับอันดับจุดความร้อนสูงสุด แบ่งเป็น

  1.  กาฬสินธุ์
  2. ขอนแก่น
  3. สุพรรณบุรี
  4. อุดรธานี
  5. ชัยภูมิ
  6. ลพบุรี
  7. เลย
  8. นครสวรรค์
  9. กาญจนบุรี
  10. สระแก้ว

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า เพื่อให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืน ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรรม” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา คณะผู้บริหาร สอน. ได้ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อหารือร่วมกับคณะผู้บริหารของบริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จำกัด จังหวัดเพชรบูรณ์ และสมาคมชาวไร่อ้อยเพชรบูรณ์ และกำชับให้สมาคมชาวไร่อ้อยฯ และโรงงานน้ำตาลฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดฝุ่น PM 2.5 ไม่สร้างผลกระทบให้กับประชาชนและชุมชนใกล้เคียง

นอกจากนี้ ยังได้ติดตามความคืบหน้าการนำเทคโนโลยีโดรนเข้ามาใช้ในพื้นที่ปลูกอ้อย 10,000 ไร่ของ บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จำกัด ตามข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) กับ สอน. เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบเผาอ้อยได้อย่างตรงจุด เป็นธรรมกับทุกภาคส่วน และเป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งโดรนจะติดตั้งระบบ AI เพื่อใช้ในการตรวจวัดคุณลักษณะอ้อยให้แม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคัดแยกอ้อยสดและอ้อยเผาไฟ ลดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิต 

ทั้งนี้ สามารถช่วยรักษาคุณภาพน้ำตาลของโรงงาน และ สอน. ยังนำ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์คุณภาพผลผลิตตันต่อไร่และค่าความหวานของอ้อย เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลสามารถวางแผนการเก็บเกี่ยวในช่วงที่อ้อยมีคุณภาพสูงสุด เพิ่มรายได้ให้กับระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ได้ติดตามสถานการณ์การหีบอ้อยของโรงงานน้ำตาลในห้องชั่งของโรงงาน พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบลักษณะอ้อยว่าเป็นอ้อยเผาไฟ หรืออ้อยสดก่อนเข้าหีบ

อย่างไรก็ตาม สอน. ได้เน้นย้ำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการผลิตอ้อยสด พร้อมสร้างภาพจดจำที่ดีให้กับประชาชนถึงการมีส่วนร่วมกับสังคมไทยในการลดฝุ่น PM 2.5 คาดว่าการใช้โดรนและ AI จะช่วยป้องปรามการลักลอบเผาอ้อย และสามารถขยายผลให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยผลิตอ้อยสดคุณภาพดีส่งเข้าหีบโรงงานน้ำตาลมากขึ้น  

รวมทั้งไม่เผาใบอ้อยหลังเก็บเกี่ยว อันเป็นต้นเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ สอน. ได้ดำเนินการทันทีตามนโยบายของรมต.อุตสาหกรรม ในการปฏิรูปอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่มีความยั่งยืน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม