เปิดเงินเฟ้อไทย 5 ปี ผันผวนตามราคาพลังงานและราคาอาหาร

สนค.เผย 5 ปี เงินเฟ้อไทยผันผวนตามตามราคาพลังงานและราคาอาหาร ปี 2565 เงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นถึง 6.08% คาดปี68 เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ อยู่ระหว่าง 0.3 – 1.3 % ค่ากลาง 0.8%
KEY
POINTS
Key Point
- เงินเฟ้อเฉลี่ยปี 2567 สูงขึ้น 0.40 %
- เงินฟ้อไทย 5 ปี (2562 – 2567 ) ผันผวนตามตามราคาพลังงานและราคาอาหาร
- ช่วงปี 2562 – 2564 เงินเฟ้อโดยรวมค่อนข้างต่ำ
- ปี 2565 เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นมากจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น
- ปี 2566 – 2567 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง
- ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ คือ ราคาพลังงาน อาหาร สถานการณ์เศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และปัญหาอุปทานทั่วโลก
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยหรือเงินเฟ้อทั่วไป เดือนธ.ค. 2567 เท่ากับ 108.28 เมื่อเทียบกับ เดือนเดียวกันของปีก่อนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น1.23 % ซึ่งเป็นบวกต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 9 ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อเดือนธ.ค.ยังคงสูงขึ้น มาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นผลจากฐานราคาต่ำในปีก่อน รวมทั้งราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มฯ สูงขึ้น จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ยปี 2567 สูงขึ้น 0.40 % ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.2-0.8 % ค่ากลาง 0.5%โดยมีปัจจัยสำคัญจากการสูงขึ้น ของราคาอาหารและเครื่องดื่มฯ โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ผลไม้สด และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม มีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำมันดีเซล
เมื่อเจาะลึกเงินเฟ้อของไทยในรอบ 5 ปีที่ผ่าน โดยข้อมูลจากสนค.พบว่า คือ ตั้งแต่ปี 2562 – 2567 หรือ 5 ปีที่ผ่านมาเงินเฟ้อในประเทศไทยมีความผันผวนตามปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะราคาพลังงานและราคาอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชน
โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปี 2562เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.71% โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.31% เป็นผลจากการปรับตัวสูงขึ้นของ กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพิ่มขึ้น 6.07 %และกลุ่มผักและผลไม้ ผักสดสูงขึ้น8.37 %และผลไม้สูงขึ้น 3.12 % ขณะที่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มลดลง 0.21% โดยเฉพาะหมวดน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง 4.62%
ปี 2563 เงินเฟ้อลดลง 0.85% โดยหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มลดลงเฉลี่ย2.05 % สาเหตุหลักมาจากการลดลงของ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งลดลงถึง 14.84 % ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.23% โดยมีการปรับสูงขึ้นในหลายกลุ่มสินค้า เช่น ข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเหนียว) เพิ่มขึ้น 3.13 %เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (เนื้อสุกร กระดูกซี่โครงหมู ปลาดุก ปลาทู) เพิ่มขึ้น 2.30 % และเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช มะพร้าวขูด
ซอสหอยนางรม) เพิ่มขึ้น 2.76%
ปี 2564 เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.23 % โดยหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มราคาสูงขึ้นเฉลี่ย 2.12 %ซึ่งหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสารเพิ่มขึ้น 7.74 %โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นสูงถึง 24.59 %ด้านหมวดเคหสถาน (ค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ค่าเช่าบ้าน) ลดลง 1.73% ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ราคาลดลงเฉลี่ย 0.13%
โดย กลุ่มข้าว แป้ง
และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว) ลดลง 6.71% กลุ่มผลไม้สด (ส้มเขียวหวาน มะละกอสุก แตงโม) ลดลง 0.03 % และกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (น้ำดื่ม กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟร้อน/เย็น) ลดลง 0.25 %อย่างไรก็ตาม กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช ซีอิ๊ว กะปิ) เพิ่มขึ้น 4.29 %
ปี 2565 เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 6.08% โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.92 % เช่น เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น 11.65 % ไข่และผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้น
6.90 % ผักสด เพิ่มขึ้น 4.77% ผลไม้สดเพิ่มขึ้น 2.19 %เครื่องประกอบอาหารเพิ่มขึ้น 9.10% ด้านหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.51%
โดยพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสารเพิ่มขึ้น 9.05 %โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 23.93 % ค่าโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้น 3.30 %และเคหสถานเพิ่มขึ้น 4.75 %
ปี 2566 เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.23 %โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.92 % เช่น เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ เพิ่มขึ้น 11.65 % ไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่มขึ้น 6.90 % เครื่องประกอบอาหาร เพิ่มขึ้น 9.10 % ผลไม้สด เพิ่มขึ้น 2.19 % อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่มขึ้น 7.52 % และอาหารบริโภคนอกบ้าน เพิ่มขึ้น 7.05 %
ขณะที่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.51 % เนื่องจากพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร เพิ่มขึ้น 9.05 %
โดย ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 23.93 %
ปี 2567 เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.40 %โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 0.76 %เช่น กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้งเพิ่มขึ้น 2.72 % กลุ่มผักสด เพิ่มขึ้น 2.43 %กลุ่มผลไม้สดเพิ่มขึ้น 3.58 %และกลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้น 2.27 %
ขณะที่หมวดอื่น ๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 0.14 %โดยหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร เพิ่มขึ้น 0.37 %อย่างไรก็ตาม หมวดเคหสถานลดลง 0.19 %จากราคาค่ากระแสไฟฟ้าที่ลดลง
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค.กล่าวว่า ภาพรวมเงินเฟ้อของไทยในช่วง ปี 2562 – 2564เงินเฟ้อโดยรวมค่อนข้างต่ำ และมีการผันผวนไม่มากนัก โดยได้รับผลกระทบหลักจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และราคาอาหารบางประเภท เช่น ข้าว ผัก และผลไม้ ขณะที่ปี 2565 เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งราคาพลังงานที่สูงขึ้นทั่วโลก และปัญหาอุปทานขาดแคลนในบางสินค้า ส่วนปี 2566 – 2567 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในปี 2567
สำหรับปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ คือ ราคาพลังงาน เนื่องจากมีผลกระทบต่อค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า และราคาสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการขนส่ง ราคาอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มข้าว ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ และปัจจัยภายนอก สถานการณ์เศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และปัญหาอุปทานทั่วโลก
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 0.3 – 1.3 % ค่ากลาง 0.8%