รัฐเร่งเครื่อง 'บ้านเพื่อคนไทย' เปิดจอง 17 ม.ค.เงื่อนไขห้ามโอนสิทธิ

รัฐบาลเพื่อไทย เร่ง “บ้านเพื่อคนไทย” ชง ครม. วันนี้ ! รับทราบลงทะเบียน 17 ม.ค.2568 ผ่านเว็บ www.บ้านเพื่อคนไทย.th คุณสมบัติผ่านเข้าขั้นตอนจับสลากรับสิทธิ ยืนยันตรวจสอบความโปร่งใส ประกาศผลเฟสแรก 5 พันยูนิต มี.ค.นี้ ธอส.พร้อมปล่อยสินเชื่อ ถกเกณฑ์รายได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
KEY
POINTS
- รัฐบาลเพื่อไทย เร่งเดินหน้าโครงการ "บ้านเพื่อคนไทย" ด้าน "คมนาคม" ชง ครม.วันนี้รับทราบลงทะเบียน 17 ม.ค.2568 ผ่านเว็บ www.บ้านเพื่อคนไทย.th
- เผยขั้นตอนยื่นเจตจำนง หากคุณสมบัติผ่านเข้าขั้นตอนจับสลากรับสิทธิ ยืนยันทุกกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใส ป้องกันสวมสิทธิ เตรียมประกาศผลเฟสแรก 5 พันยูนิต มี.ค.นี้
- ธอส.พร้อมปล่อยสินเชื่อ รัฐบาลถกเกณฑ์รายได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท ป้องกันปัญหาต้นทุนจมซ้ำรอยบ้านเอื้ออาทร
รัฐบาลมีนโยบายจะทำโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก โดยไม่เป็นภาระในการผ่อนชำระของประชาชนในจำนวนเงินที่มากเกินไปนัก ซึ่งแนวคิดของโครงการนี้จะสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ
สำหรับระยะแรกใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยประชาชนที่ได้รับการคัดเลือกหลังจากเปิดให้จองสิทธิสามารถอยู่อาศัยในระยะยาว โดยการจ่ายค่าเช่าแทนการดาวน์ และผ่อนชำระ ซึ่งอัตราเช่าต่อเดือนไม่สูงมากนัก
ล่าสุดกระทรวงคมนาคมจะรายงานความพร้อมโครงการบ้านเพื่อคนไทยต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 ม.ค.2568 และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดโครงการในวันที่ 17 ม.ค.68 นี้ ที่บริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยระบุว่า ในวันที่ 17 ม.ค.2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจความพร้อม และเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างในโครงการบ้านเพื่อคนไทยด้วยตนเอง
สำหรับบ้านตัวอย่างจะมีการจัดแสดงอยู่ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก่อนจะเปิดให้ประชาชนยื่นแสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทยในวันที่ 17 ม.ค.2568 นี้หลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเปิดโครงการ
รวมทั้งขณะนี้มีความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่โครงการนำร่องในการพัฒนา 4 แห่ง ประกอบด้วย
1.ที่ดินย่านบางซื่อ นิคม กม.11 หลังสำนักงานใหญ่ ปตท. ใกล้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
2.ที่ดินใกล้สถานีธนบุรี บริเวณใกล้โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มีรถไฟสายสีน้ำเงินผ่าน
3.ที่ดินบริเวณเชียงราก อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในบริเวณใกล้มีสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง เส้นทางรถไฟสายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ
4.ที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟเชียงใหม่
ทั้งนี้รูปแบบโครงการจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ขนาด 8 ชั้น ประกอบด้วย ห้องพัก 30-51 ตารางเมตร หลังจากนั้นจะขยายโครงการเป็น 45 ชั้นเพื่อให้คุ้มค่าต่อการพัฒนาโครงการ และสามารถปรับราคาต่อห้องให้ถูกลงได้ อีกทั้งจะมีโครงการบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาด 50 ตารางเมตร บนที่ดิน 50 ตารางวาด้วย รวมประมาณ 5,000 หน่วย
“ในวันที่ 17 ม.ค.68 นี้ ประชาชนที่สนใจแสดงเจตจำนงร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทย สามารถลงทะเบียนได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th รวมไปถึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่จะมาให้บริการบริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เพื่อให้ข้อมูลในโครงการนี้” นายสุริยะ กล่าว
เปิดขั้นตอนลงทะเบียนรับสิทธิจองบ้านเพื่อคนไทย
นอกจากนี้ ขั้นตอนการแสดงเจตจำนง เมื่อประชาชนเข้าไปจองผ่าน www.บ้านเพื่อคนไทย.th หลังจากนั้นทาง ธอส.จะตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศผล Pre approve ผู้ที่สามารถยื่นเอกสารจองสิทธิซื้อบ้านเพื่อคนไทยได้ พร้อมทั้งติดต่อกลับไปยังผู้ที่ได้รับสิทธิ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการจับสลากเพื่อรับสิทธิในการซื้อโครงการบ้านเพื่อคนไทยต่อไป
สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิจะต้องแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิตามวัน และเวลาที่ธนาคารกำหนด เพื่อจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติตามที่โครงการกำหนด หากไม่ผ่านเกณฑ์จะถือว่าเป็นการสละสิทธิ
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า การติดต่อแสดงเจตจำนงตามขั้นตอนทั้งหมด ไม่ว่าประชาชนจะยื่นแสดงเจตจำนงผ่านช่องทางใดก็จะถูกรวบรวมข้อมูลไปยัง ธอส. หลังจากนั้นทาง ธอส.จะดำเนินการพิจารณาคุณสมบัติตามข้อกำหนด และติดต่อไปยังผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ดังนั้นทุกคนมีสิทธิในการยื่นแสดงเจตจำนงแต่การพิจารณาสิทธิจะเป็นไปตามข้อกำหนดของ ธอส.ด้วย
อีกทั้งเมื่อผ่านการพิจารณาคุณสมบัติแล้ว จะต้องเข้าสู่กระบวนการจับสลากเพื่อรับสิทธิในการซื้อโครงการบ้านเพื่อคนไทยต่อไป โดยกระบวนการจับสลากปัจจุบันยังอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อให้เกิดความรอบคอบ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ดังนั้นอยากให้ประชาชนที่สนเข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทย ยื่นแสดงเจตจำนงผ่านช่องทางที่กำหนด และยืนยันว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน
ประกาศผลผู้ได้รับสิทธิ มี.ค.2568
สำหรับไทม์ไลน์โครงการบ้านเพื่อคนไทย ภายหลังเปิดให้ประชาชนยื่นแสดงเจตจำนงแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบสิทธิ และประกาศผลผู้ที่ได้รับสิทธิในการซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการดังกล่าวภายใน 2 เดือนนับจากนี้ หรือราวเดือน มี.ค.2568 หลังจากนั้นโครงการจะก่อสร้างทันทีเพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้ โดยนำร่อง 5,000 หน่วย จากเป้าหมายทั้งหมด 300,000 หน่วย
สำหรับคุณสมบัติของผู้ซื้อสิทธิ กำหนดไว้ประกอบด้วย 1.เป็นผู้มีสัญชาติไทย 2.เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน 3.เป็นผู้มีรายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน 4.ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยได้ทุกประเภท และ 5.ไม่เคยได้สิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย
7 เงื่อนไขรับสิทธิในโครงการ
ส่วนเงื่อนไขการซื้อสิทธิ กำหนดไว้ 7 เงื่อนไข ประกอบด้วย
1.ผู้ซื้อสิทธิ 1 ท่าน มีสิทธิจองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างได้ 1 หน่วย ต่อ 1 โครงการเท่านั้น แต่หากการพิจารณาให้สิทธิในโครงการใดเสร็จสิ้นไปแล้ว และไม่ได้สิทธิ สามารถใช้สิทธิจองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอีกครั้งในจังหวัดเดิมได้
2.ห้ามโอนสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทยภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันจดทะเบียนสิทธิ
3.ห้ามนำอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างในโครงการบ้านเพื่อคนไทยไปให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ หรือทำนิติกรรมในลักษณะต่างตอบแทนเพื่อให้บุคคลอื่นได้ใช้ประโยชน์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง เว้นแต่เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ของสมาชิกในครอบครัวของผู้ซื้อสิทธิ
4.หากความปรากฏว่าผู้ซื้อสิทธิขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง โดยขอสงวนสิทธิในการยกเลิกสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย บอกเลิกสัญญา หรือปรับอัตราผลตอบแทนตามเหตุ และปัจจัย
5.หากความปรากฏว่าผู้ซื้อสิทธิมีพฤติการณ์ปรากฏให้เห็นหรือเชื่อได้ว่าเป็นผู้มีรายได้เกินกว่า 50,000 บาท ต่อเดือน ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิโนโครงการบ้านเพื่อคนไทย บอกเลิกสัญญา หรือปรับอัตราผลตอบแทนตามเหตุและปัจจัย
6.เงื่อนไขอื่นเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
7.สงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด และเงื่อนไขใดๆ ดังกล่าวข้างต้น
ธอส.พร้อมปล่อยสินเชื่อโครงการ
นายกลมภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ในฐานะสถาบันเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมรับนโยบายของรัฐบาลในการจัดทำสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) ซึ่งจะมีเงื่อนไขผ่อนปรน และมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับประชาชนที่ผ่านคุณสมบัติและได้รับสิทธิจองแล้ว
ดังนั้นเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ธอส.จะเป็นหน่วยงานหลักที่พร้อมทำหน้าที่ปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำหรับรายละเอียดของสินเชื่อยังต้องรอการประกาศนโยบายจากรัฐบาล
รวมทั้ง ในวันที่ 17 ม.ค.2568 ธอส.จะร่วมตั้งบูธภายในงานเปิดตัวโครงการบ้านเพื่อคนไทย บริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยทำหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน
เปิดเกณฑ์คัดเลือกพื้นที่ก่อสร้างโครงการ
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยที่รัฐบาลกำลังจะผลักดันออกมาเป็นเฟสนำร่องนั้นนำแนวความคิดมาจากโครงการที่เคยมีการทำมาแล้วในต่างประเทศ เช่น ในประเทศสเปน โดยใช้ที่ดินของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีทำเลอยู่ในพื้นที่เมือง มีการเดินทางได้สะดวกสามารถพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนที่อยู่มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ทั้งนี้การคัดเลือกพื้นที่โครงการจึงต้องมีตำแหน่งที่ตั้งใกล้กับสถานีรถไฟของ รฟท. รวมทั้งเป็นพื้นที่อยู่ในจังหวัดหลักที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจหรือศูนย์กลางภูมิภาคพื้นที่มีตำแหน่งที่ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางชุมชน
นอกจากนี้ต้องมีความพร้อมในการพัฒนาพื้นที่ รวมถึงความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ต้องมีความเป็นไปได้ในการจองสิทธิโครงการพื้นที่มีตำแหน่งที่ตั้งใกล้กับมหาวิทยาลัยภูมิภาค รวมทั้งมีอัตราความหนาแน่นของประชากรรอบพื้นที่ และราคาประเมินที่ดิน
ติงเกณฑ์รายได้ 5 หมื่นบาทต่อเดือน
แหล่งข่าว กล่าวว่า ในการทำโครงการในเฟสแรกมีการหารือเรื่องของเกณฑ์ที่จะให้กับผู้ทำงานใหม่ ที่มีรายได้ไม่สูงมาก และไม่เคยมีที่อยู่อาศัยมาก่อนมีโอกาสที่จะมีที่อยู่อาศัยที่สามารถอยู่ได้ในระยะยาว โดยมีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การพิจารณารายได้เดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน แต่ปัจจุบันมีการกำหนดรายได้ครอบคลุมกลุ่มที่สูงขึ้นที่มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน
โดยในส่วนนี้คณะทำงานของรัฐบาลยังมีการทำข้อมูลว่าระดับรายได้อย่างไร รวมทั้งพิจารณาว่ารายได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือนนั้นสูงเกินไปหรือไม่ หากสูงเกินไปอาจมีการปรับลดลงมาเพื่อให้คนที่ยื่นขอสิทธินั้นมีจำนวนลดลง และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มโอกาสให้คนไทยมีบ้านได้มากขึ้น
เตือนบทเรียน ‘เอื้ออาทร’ ต้นทุนจม
แหล่งข่าว กล่าวว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยในการดำเนินโครงการรัฐบาลได้มีการถอดบทเรียนของโครงการบ้านเอื้ออาทรในอดีตโดยเฉพาะประเด็นการบริหารโครงการที่มีต้นทุนจม (Sunk Cost) เนื่องจากโครงการบ้านเอื้ออาทรที่เคยทำนั้นมีการสร้างประมาณ 2 แสนยูนิต แต่ว่ามีการซื้อจริง และขอสินเชื่อผ่านได้แค่ประมาณ 1 แสนยูนิต ทำให้มีต้นทุนจมจากโครงการนี้อยู่พอสมควร
ดังนั้นจึงต้องป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนในอดีต เนื่องจากบ้านเพื่อคนไทยที่มีการวางแผนว่าจะมีการขยายจำนวนยูนิตให้มากถึง 5 หมื่นยูนิตภายในปี 2570 ซึ่งแม้ว่าจะน้อยกว่าตอนที่ทำบ้านเอื้ออาทรแต่ก็ถือว่ายังเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจ และตลาดอสังหาฯ ที่ซบเซาอยู่ในปัจจุบัน ธอส.พร้อมจัดสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามนโยบายรัฐ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์