ทักษิณ แนะออกบอนด์ หนุนสกุลเงินดิจิทัล คิดนอกกรอบเติมเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ

ผ่าความคิดอดีตนายกฯทักษิณคิดนอกกรอบเติมสภาพคล่องในระบบ หนุนใช้บิตคอยน์สกุลเงินดิจิทัล ให้รัฐบาลออกพันธบัตรหนุน Stabal Coin ให้ประชาชนรายย่อยซื้อ จากเดิมที่พันธบัตรรัฐบาลสภาบันการเงินถือเพื่อกินส่วนต่างดอกเบี้ย ชี้จีดีพีโตได้ 4-5% แต่ต้องมีสภาพคล่องหนุน
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในขณะที่ ราคาบิตคอยน์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่สูงกว่าระดับ 105,000 ดอลลาร์ต่อ 1 บิตคอยน์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ออกมาพูดหนุนการใช้เงินสกุลดิจิทัลรวมทั้งบิตคอยน์ 2 ครั้ง ครั้งแรกพูดในงานสัมนาพรรคเพื่อไทยที่ หัวหิน ว่ารัฐบาลอาจให้กระทรวงการคลังศึกษาการใช้บิตคอยน์ในพื้นที่ภูเก็ตเป็นแซนบ็อกซ์
ส่วนอีกครั้งหนึ่งอดีตนายกรัฐมนตรีพูดในการปาฐกถาภายในงาน “ISAN NEXT” : พลิกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตโลก ที่จ.นครราชสีมา โดยพูดถึงการออก “stable coin” หรือจะเรียกว่า พันธบัตรดิจิทัล ปัญหาของประเทศวันนี้เป็นหนี้เยอะมาก หนี้ประเทศเยอะ สูงถึง 60% ของจีดีพี จากเพดานอยู่ที่ 70% จะกู้อีกคงไม่ไหว
รัฐบาลต้องหาทางลดหนี้ ด้วยการลดหนี้ หรือเพิ่มจีดีพี ซึ่งพูดง่ายแต่ทำยาก โดยการจะเพิ่มจีดีพี ต้องเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่เม็ดเงินเราน้อย เลยโตได้น้อยเพราะเงินนั้นถูกดูดออกจากระบบเป็นจำนวนมาก
นายทักษิณ กล่าวว่าตนเองได้คุยผู้เชี่ยวชาญด้านการคลัง และกฎหมาย มองว่าที่ผ่านมารัฐบาลออกพันธบัตร ขายสถาบันการเงินเป็นส่วนใหญ่ สถาบันการเงินก็เก็บ รับดอกเบี้ย ไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจอะไรเลย วันนี้ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี เอาจริงเอาจังกับคริปโต และบิตคอยน์ กำลังเพิ่มเงิน เราไม่ทำก็ไม่ทันเขา เราทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เกิดความเสี่ยง
อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องพันธบัตร 8 แสนล้านต่อปี จะต้องเอามาทำประโยชน์ดีไหม ออกพันธบัตร ขายบุคคลทั่วไป 1 พัน 1 หมื่นบาทก็ขาย อายุสั้นๆ ออกในรูปของเหรียญหรือคอยน์ ทำแบบนี้เงินตกไปอยู่ในมือประชาชน ใช้ก็เพิ่มเงินหมุนเวียน ไม่ใช้ก็รับดอกเบี้ย ใช้ทุกภาคของประเทศ
“เศรษฐกิจจะดีได้ก็ด้วยการมีสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจไม่งั้นจีดีพีไม่โต ทำนายยังไงก็โตแค่ 2 กว่า ฟังแล้วทุเรศ ต้องทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 4-5% ให้ได้”
แหล่งข่าจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าแนวคิดนี้ในเรื่องนี้ของอดีตนายกฯทักษิณสอดคล้องกับแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหา “สภาพคล่อง” ที่ธนาคารดึงออกจากระบบเศรษฐกิจจากการที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลแล้วถือไว้รอกินส่วนต่างดอกเบี้ย
โดยปัจจุบันหนี้สาธารณะไทยอยู่ที่ระดับสูงมาก เมื่อทำงบประมาณแต่ละปีต้องทำงบขาดดุล พอขาดดุลรัฐบาลก็ต้องกู้ พอจะกู้ก็ออกพันธบัตรมาขาย คนที่ซื้อก็คือธนาคาร เอาเงินมาซื้อพันธบัตรถือไว้รอกินดอกเบี้ย เท่ากับเงินถูกดูดออกจากระบบไปแช่ไว้ในรูปพันธบัตรอยู่ในมือธนาคาร พอรัฐบาลจ่ายเงินใช้หนี้ ก็เท่ากับว่าจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตร จึงเท่ากับว่าคนทั้งประเทศจ่ายภาษีมาช่วยรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงิน
แนวคิกการออกเป็น stable coin ผ่านการออกพันธบัตรดิจิทัล ที่สามารถใช้เหมือนเงินก็ได้ มีสภาพคล่องมากกว่าพันธบัตรแบบเดิม ถ้าคนไม่อยากใช้อยากได้ดอกเบี้ยก็ถือไว้รอกินดอกเบี้ยได้ด้วย อายุพันธบัตรที่ออกมาในระยะเวลาสั้นลงเพื่อมีสภาพคล่องมากกว่า เงินจำนวนไม่มากก็ซื้อได้เพื่อให้กระจายอยู่ในมือคนทั่วไป เดือดร้อนก็เอามาใช้ก่อนได้เหมือนเงินสด
ผลที่คาดหวังได้ก็คือจะเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เติมใส่มือคนทั่วไป มากกว่าที่จะให้คนที่ถือพันธบัตรรัฐบาลที่เป็นรายใหญ่ได้ปันผลอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา โดยแนวคิดนี้จะช่วยให้จีดีพีของประเทศขายตัวมากขึ้นด้วย







