“ดับเบิลยูทีโอ”เปิดดัชนีการค้าโลกทรงตัว คาดปริมาณปี67โต 2.7% หนุนปี68โต3%

“ดับเบิลยูทีโอ”เปิดดัชนีการค้าโลกทรงตัว   คาดปริมาณปี67โต 2.7% หนุนปี68โต3%

รายงานข่าวจากองค์การการค้าโลก (WTO) ระบุถึง ดัชนีชี้วัดทางการค้า หรือ The Goods Trade Barometer ซึ่งชี้ว่าการค้าโลกที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนต่างๆนั้นกำลังออกอาการหลังWTO ประมวลผลจากข้อมูลแบบเรียลไทม์จากเส้นทางการค้าของโลก

โดยค่าดัชนีของเดือนต.ค. 2567 พบว่า ค่าดัชนีวัดล่าสุดที่ 102.7 อยู่เหนือดัชนีปริมาณการค้ารายไตรมาส และมากกว่าค่าพื้นฐานที่ 100 ของดัชนี ซึ่งบ่งชี้ว่าการค้าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่สี่ อย่างไรก็ตาม หากมองไปข้างหน้าก็จะพบว่าแนวโน้มยังคงคลุมเครือตจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวนโยบายการค้าในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก 

ภาพรวมดัชนีวัดทั้งหมดยังคงอยู่ที่หรือสูงกว่าค่าเฉลี่ย ยกเว้นดัชนีส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ 95.4  เป็นการทรงตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่ดัชนีคำสั่งซื้อส่งออกและดัชนีวัตถุดิบต่างก็อยู่ที่ 100.5  และดัชนีที่แสดงถึงการขนส่งสินค้าทางอากาศ อยู่ที่ 102.9  ด้านดัชนีผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ที่104.0  และดัชนีการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ที่ 105.8 ที่ต่างก็อยู่สูงกว่าค่าฐาน

“ดัชนีการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์และดัชนีการขนส่งทางอากาศเป็นเครื่องวัดที่ทำนายได้ดีที่สุดที่พบว่า ยังคงอยู่ใกล้กับค่าพื้นฐานที่ 100 มาก ซึ่งบ่งชี้ถึงการเติบโตทางการค้าในระยะสั้น”

ทั้งนี้ ตามการคาดการณ์การค้าล่าสุดของ WTO เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ระบุว่าปริมาณการค้าปี 2024 จะขยายตัว 2.7% ในขณะที่การเติบโตในปี 2025 คาดว่าจะสูงถึง 3.0% 

ด้านพิมพ์ชนก พิตต์ฟีลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ณ นครเจนีวา เปิดเผยภายหลังลงนามกับ Azizbek Urunov ผู้แทนพิเศษประธานาธิบดีในประเด็นองค์การการค้าโลกและหัวหน้าคณะเจรจาของอุซเบกิสถาน ในพิธีสารการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทย-อุซเบกิสถาน ภายใต้กระบวนการภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิก WTO ของอุซเบกิสถาน

การลงนามพิธีสารฯ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกซึ่งอุซเบกิสถานเริ่มต้นกระบวนการสมัครเป็นสมาชิก WTO ตั้งแต่ปี 2537 ก่อนจะหยุดชะงักไปในปี 2548 และได้เข้าสู่กระบวนการอีกครั้งเมื่อปี 2563 โดยในส่วนของการเจรจาข้อเสนอทวิภาคีในการเปิดตลาดกับไทยได้สรุปผลการเจรจาได้สำเร็จเมื่อเดือนก.พ. 2567 ในช่วงระหว่างการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 13 ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับอามิเรตส์ 

ทั้งนี้ ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 22 ที่ได้มีการลงนามในพิธีสารฯ จากทั้งหมด 33 ประเทศ และอุซเบกิสถานตั้งเป้าเข้าร่วมเป็นสมาชิก WTO ในการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ครั้งที่ 14 ในปี 2569 ณ ประเทศแคเมอรูน

การลงนามพิธีสารฯ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของไทยในการสนับสนุนให้อุซเบกิสถานร่วมเป็นสมาชิกของ WTO ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการส่งออกสินค้าของไทยและเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอุซเบกิสถาน ผ่านการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรให้กับสินค้าไทยที่มีศักยภาพการผลิตและส่งออก ได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ กระดาษ พลาสติก ชิ้นส่วนยานยนต์ และสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว อาหารปรุงแต่ง กุ้งแช่แข็ง และอาหารสัตว์ 

ปัจจุบันอุซเบกิสถานเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในภูมิภาคเอเชียกลาง ในปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 106.59 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกมูลค่า 96.80 ล้านดอลลาร์  และนำเข้ามูลค่า 9.79 ล้านดอลลาร์

สำหรับปี 2567 WTO มีสมาชิกเข้าใหม่ 2 ประเทศ ได้แก่ โคโมโรส และติมอร์เลสเต โดยหลังจากเจรจาเปิดตลาดสินค้าและบริการกับอุซเบกิสถานเสร็จแล้ว ไทยยังมีการเจรจากับอาเซอร์ไบจานและภูฏาณที่กำลังดำเนินการอยู่