ตึงเครียดตะวันออกกลางหนุนราคาทองคำแตะระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์

ตึงเครียดตะวันออกกลางหนุนราคาทองคำแตะระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องมาจากความตึงเครียด ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น และความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในสัปดาห์หน้า พร้อมจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพุธ

รอยเตอร์สรายงาน ในวันอังคาร (10 ธ.ค.) ราคาทองคำโลก Gold Spot เพิ่มขึ้น 1.3% อยู่ที่ 2,692.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำล่วงหน้า Gold Futures ของสหรัฐปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1.2% อยู่ที่ 2,718.40 ดอลลาร์

ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานและนักกลยุทธอาวุโสของ Zaner Metals บริษัทผู้ค้าโลหะมีค่า กล่าวว่า “ความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางกำลังหนุนให้เกิดการเสนอซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีการให้ความสนใจกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลกอีกครั้ง โดยคาดว่าธนาคารกลางแคนาดาจะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ย ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางสวิสจะปรับ ลดอัตราดอกเบี้ยในปลายสัปดาห์นี้ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า"

ตลาดรอคอย รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธ (11 ธ.ค.) ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพฤศจิกายน ตามผลสำรวจของรอยเตอร์ส และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งทั้งคู่มีความสำคัญในการกำหนดการตัดสินใจ ลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

“ข้อมูล CPI จะมีผลกระทบต่อทองคำในวงจำกัด โดยเฉพาะ อย่างยิ่งหากเราได้รับตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ รายงาน CPI ที่สูงขึ้นจะลดโอกาสที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้น ปี 2025 ลงอีก” ฟาวาด ราซัคซาดา นักวิเคราะห์ตลาดจาก บริษัทนายหน้าค้าอัตราแลกเปลี่ยน Forex.com กล่าว

จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐสองครั้งในปีนี้ ผู้ค้าคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย อีก 0.25 %ในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคม ตามเครื่อง มือติดตามเฟด FedWatch ของ CME

ทองคำถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่มีความวุ่นวาย ทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ และราคามีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ

นอกจากนี้ โปลิตบูโรของจีนยังกล่าวในวันจันทร์ว่า จีนจะใช้ นโยบายการเงินแบบ “ผ่อนปรนอย่างเหมาะสม” และจะใช้ แนวทางการคลังเชิงรุกมากขึ้นในปีหน้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีน “การประกาศครั้งสำคัญน่าจะช่วยหนุนราคาทองคำได้ เนื่องจากจีนเป็นประเทศผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนถึงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งความต้องการ เครื่องประดับเพื่อเป็นของขวัญจะเพิ่มขึ้น” ราซัคซาดาเสริม

ด้านราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 32.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินัมเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 940.90 ดอลลาร์ และ แพลเลเดียมลดลง 0.4% เป็น 969.52 ดอลลาร์