EEC พื้นที่แห่งโอกาสของธุรกิจ Solar Corporate PPA

การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเป้าหมายที่จะบรรลุ Net Zero emission ของผู้ประกอบการขนาดใหญ่จากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC นอกจากจะก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจแล้ว
ยังนำมาซึ่งความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะเพิ่มขึ้นในพื้นที่อีกด้วย ด้วยศักยภาพของพื้นที่และสิทธิประโยชน์ในการลงทุน เช่น การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก BOI รวมทั้งสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจากต่างประเทศได้ให้ความสนใจในการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น สะท้อนได้จากมูลค่าโครงการการลงทุนจากต่างประเทศที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในพื้นที่ EEC ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 422,257 ล้านบาทใน 9 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งเติบโตราว 39% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และสูงสุดในรอบมากกว่า 7 ปี นอกจากก่อให้เกิดการลงทุนในการสร้างและขยายโรงงานอุตสาหกรรม และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ่ยื่นขอรับการส่งเสริม้างและขยายโรงงานอุตสาหกรรม กิจกรรมทางธุรกิจ ขึ้นอีกด้วยคบริโภคที่เพิ่มขึ้นในพืที่มากขึ้นแล้ว ยังนำมาซึ่งความต้องการการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะเพิ่มขึ้นตามในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะจากธุรกิจ Solar Corporate PPA ซึ่งผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่างภาคเอกชนกับภาคเอกชนโดยตรง นอกเหนือจากโครงการผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจากภาคเอกชนไปยังภาครัฐ
Krungthai COMPASS คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าจากธุรกิจ Solar Corporate PPA ในพื้นที่ EEC ที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจ Solar Corporate PPA ในพื้นที EEC ต้องเตรียมการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก 207 เมกะวัตต์ในปี 2566 เป็น 662 เมกะวัตต์ในปี 2580 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 8.6%CAGR ซึ่งก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในแง่ของรายได้จากการขายไฟฟ้าให้กับภาคเอกชนตลอดอายุสัญญาขายไฟฟ้า 5-10 ปี และเม็ดเงินลงทุนในการก่อสร้างกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากธุรกิจ Solar Corporate PPAในพื้นที่ EEC จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,182 ล้านหน่วยไฟฟ้าในปี 2580 จาก 310 ล้านหน่วยไฟฟ้าในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10%CAGR ตามทิศทางการคาดการณ์การใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่อยู่นอกระบบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในส่วนของรายได้รวมจากขายไฟฟ้าให้ภาคเอกชนในพื้นที่ EEC ของธุรกิจ Solar Corporate PPA คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.4 พันล้านบาทในปี 2566 เป็น 4.7 พันล้านบาทในปี 2580 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.8%CAGR ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าของธุรกิจ Solar Corporate PPA ในพื้นที่ดังกล่าว โดยการประเมินนี้อยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าราคาขายไฟฟ้าของธุรกิจนี้ป็น 70% ของค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ย ซึ่งคาดว่าจะลดลงเฉลี่ยปีละ 1.1% ในช่วงปี 2567-80 ตามการคาดการณ์ในร่างของแผน PDP 2024
นอกจากนั้น กำลังการผลิตไฟฟ้าของธุรกิจ Solar Corporate PPA ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2567-80 คาดว่าจะก่อให้เกิดเงินลงทุนในการก่อสร้างในพื้นที่ EEC กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าต้นทุนแผงเซลล์อาทิตย์มีแนวโน้มลดลงเฉลี่ยปีละ 1.5% ในช่วงปี 2566-79 ตามคาดการณ์ของสถาบันวิจัยด้านพลังงานหมุนเวียนของสหรัฐฯ
สำหรับผู้ประกอบการที่ลงทุนธุรกิจ Solar Corporate PPA ควรเตรียมงบในการก่อสร้างกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ราว 33.5 ล้านบาท /เมกะวัตต์ นอกจากนั้น ควรพิจารณาสถานะการเงินและความต้องการของลูกค้าที่จะมาใช้บริการ ก่อนที่ทำสัญญาขายไฟฟ้า เพื่อกำหนดปริมาณการขายไฟฟ้าและระยะเวลาในการขายไฟฟ้าที่เหมาะสมกับฐานะทางการเงินและความต้องการของลูกค้า







