ส่งออกไก่ไทยสดใส หลังตลาดโลกต้องการสูง

ส่งออกไก่ไทยสดใส หลังตลาดโลกต้องการสูง

ปี 68 โลกบริโภคเนื้อไก่เพิ่มดันส่งออกไก่โลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไทยรับอานิสงค์ สนค.เผย 10 เดือนแรกปี 68  ไทยส่งออกเพิ่มมูลค่ารวม 3,592.5 ล้านดอลลาร์  ขยายตัว 4.9% แนะผู้ประกอบการไทยรักษาส่วนแบ่งตลาด และขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ

KEY

POINTS

Key Point

  • การส่งออกเนื้อไก่โลกปี 2568 จะเติบโตที่ 2% อยู่ที่ 13.8 ล้านตัน เพิ่มสูงที่สุดในประวัติการณ์
  • “บราซิล” เป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่อันดับที่ 1 ของโลก
  • ไทย  ส่งออกสินค้าไก่ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค. – ต.ค.) มูลค่ารวม 3,592.5 ล้านดอลลาร์

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์  ได้ติดตามสถานการณ์และแนวโน้มการค้าสินค้าเนื้อไก่ พบว่า  ในปี 2568 คาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกเนื้อไก่โลกจะเพิ่มสูงที่สุดในประวัติการณ์ โดยจะเติบโต 2%  อยู่ที่ 13.8 ล้านตัน 

สำหรับไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ของโลก ก็จะมีการส่งออกเนื้อไก่เพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ต้องเฝ้าระวังการขยายการส่งออกของบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่อันดับที่ 1 ของโลก ที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย

ทั้งนี้สนค. ได้ศึกษาข้อมูลรายงานสถานการณ์ตลาดสินค้าสัตว์ปีก ของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA)  พบว่า ปี 2568 การผลิตเนื้อไก่ทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2% หรือประมาณ 104.9 ล้านตัน (ปี 2567 มีการผลิตประมาณ 103.0 ล้านตัน)

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาอาหารสัตว์ที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย และความต้องการผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งจีนที่จะมีการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะทำให้จีนกลับมาเป็นผู้ผลิตเนื้อไก่อันดับที่ 1 ของโลกอีกครั้ง (จีนเคยเป็นผู้ผลิตเนื้อไก่อันดับที่ 1 ของโลก และถูกบราซิลแซงในปี 2565)

ส่งออกไก่ไทยสดใส หลังตลาดโลกต้องการสูง

สำหรับการส่งออกเนื้อไก่โลกปี 2568 จะเติบโตที่ 2% อยู่ที่ 13.8 ล้านตัน (ปี 2567 มีการส่งออกประมาณ 13.6 ล้านตัน) ซึ่งเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความต้องการบริโภคเนื้อไก่เพิ่มขึ้น โดยไก่เป็นโปรตีนราคาถูกที่ดึงดูดผู้บริโภครายได้ปานกลาง รวมทั้งการสนับสนุนจากซัพพลายเออร์ผู้ผลิตเนื้อไก่รายใหญ่ของโลก

โดยเฉพาะการขยายการส่งออกของบราซิล ทำให้ส่วนแบ่งการส่งออกของบราซิลขยายตัวต่อเนื่อง และกระทบต่อการส่งออกเนื้อไก่ของยุโรปและสหรัฐฯ โดยเฉพาะในตลาดนำเข้า ได้แก่ เม็กซิโก ซาอุดีอาระเบีย สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหราชอาณาจักร ซึ่งบราซิลสามารถแข่งขันกับซัพพลายเออร์อื่นในด้านราคา และมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทำให้คาดว่าในอนาคตบราซิลอาจแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดของผู้ส่งออกเนื้อไก่รายอื่น ๆ อาทิ สหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น

“พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์” ผู้อํานวยการ สนค. กล่าวว่า  ไทยมีการส่งออกสินค้าไก่ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค. – ต.ค.) มูลค่ารวม 3,592.5 ล้านดอลลาร์ (126,976 ล้านบาท) ขยายตัว 4.9%  โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกไก่ปรุงสุกไปตลาดสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าไก่ของไทยประกอบด้วย 

ส่งออกไก่ไทยสดใส หลังตลาดโลกต้องการสูง

1. ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง มูลค่าส่งออก 1,131.3 ล้านดอลลาร์ (39,967 ล้านบาท) หดตัว 0.2% ตลาดส่งออกสำคัญได้แก่  ญี่ปุ่น (สัดส่วน 36.85% ของมูลค่าส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งของไทย)  จีน (สัดส่วน 32.39%)   มาเลเซีย (สัดส่วน 14.37%) เกาหลีใต้ (สัดส่วน 4.37%) และ  ฮ่องกง (สัดส่วน 3.13%)

2. ไก่แปรรูป มูลค่าส่งออก 2,461.2 ล้านดอลลาร์ (87,009 ล้านบาท) ขยายตัว 7.4%  ตลาดส่งออกสำคัญได้แก่  ญี่ปุ่น (สัดส่วน 47.58% ของมูลค่าส่งออกไก่แปรรูปของไทย)   สหราชอาณาจักร (สัดส่วน 27.21%)   เนเธอร์แลนด์ (สัดส่วน 6.13%)   เกาหลีใต้ (สัดส่วน 4.47%) และ สิงคโปร์ (สัดส่วน 4.24%)

“ในปี 2568 การส่งออกเนื้อไก่ของโลกและไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี และประเทศผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่อื่น ๆ เช่น บราซิล สหภาพยุโรป ก็มีแนวโน้มขยายตัวดีเช่นกัน ”นายพูนพงษ์ กล่าว

สำหรับไทยเป็นผู้ส่งออกไก่แปรรูป  อันดับที่ 1 ของโลกมาอย่างยาวนาน เคยมีสัดส่วนสูงถึง 30% ของมูลค่าการส่งออกไก่แปรรูปของโลก สำหรับปี 2566 ไทยมีสัดส่วนอยู่ที่ 25.8% ของมูลค่าการส่งออกไก่แปรรูปของโลก รองลงมา คือ จีน (สัดส่วน 11.0%) เยอรมนี (สัดส่วน 9.3%) โปแลนด์ (สัดส่วน 8.9%) และเนเธอร์แลนด์ (สัดส่วน 8.6%) ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามทาง สนค.มีข้อแนะนำสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเน้นย้ำว่า ไทยต้องรักษาความสามารถทางการแข่งขัน รักษาส่วนแบ่งตลาด และขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ โดยต้องควบคุมการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ อย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า ดูแลต้นทุนการเลี้ยงไก่ของไทยให้เหมาะสมเพื่อสินค้าไทยแข่งขันได้ ตลอดจนนำเสนอผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค