ผู้บริโภคเตรียมรับราคามะพร้าวพุ่ง45% ปัจจัยโรค-แมลงรุมทำผลผลิตปี68ลดลง

“มะพร้าว” มีเนื้อที่ปลูกยืนตันถึง 862,718 ไร่มีจำนวนครัวเรือนที่ทำอาชีพนี้ 167,161 ครัวเรือน ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูประบุว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์มะพร้าวเมื่อปี 2566 มูลค่า 34,090 ล้านบาทจากข้อมูลนี้ ทำให้มะพร้าวคือพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ
ฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การผลิต มะพร้าวผลแก่ ปี 2568 (ข้อมูลพยากรณ์ ณ พ.ย. 2567) ซึ่งคาดว่ามีเนื้อที่ให้ผลทั้งประเทศ 0.828 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีเนื้อที่ 0.821 ล้านไร่ หรือ เพิ่มขึ้น 0.90% ปริมาณผลผลิตทั้งปีอยู่ที่ 633.25 ล้านผล เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ให้ผลผลิต 600.52 ล้านผล เพิ่มขึ้น5.45%
เนื่องจากในช่วงปลายฤดูฝนของปี 2567 มีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น และหากในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวย มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อความต้องการของมะพร้าว ทำให้ต้นมะพร้าวมีการสะสมอาหารและต้นมะพร้าวสมบูรณ์ขึ้น จะส่งผลให้การออกดอกและการติดผลต่อทะลายเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยการผลิตจะส่งเสริมให้มะพร้ามน่าจะมีผลผลิตที่ดีแต่ปี 2568 คาดว่าผลผลิตมะพร้าวจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากต้นมะพร้าว จะยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2567 จากการระบาดของหนอนและแมลงศัตรูมะพร้าว เช่น แมลงดำหนาม หนอนหัวดำ และด้วงแรดทำให้ในปี 2568 ต้นมะพร้าวอาจไม่สมบูรณ์เต็มที่ การติดจั่นและจำนวนผลมะพร้าวต่อทะลายในช่วงปี 2567 ที่จะให้ผลผลิตได้ในปี 2568 ลดลง โดยเฉพาะในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญ
โดยจากการรายงานข้อมูลของกองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร ณ 30 ต.ค. 2567 พบว่า มีรายงานการระบาดหนอนหัวดำ 27 จังหวัด พบพื้นที่การระบาดรุนแรง 6,591 ไร่ และพื้นที่การระบาดน้อยถึงปานกลาง 36,956 ไร่ และรายงานการระบาดแมลงดำหนาม 23 จังหวัด พบพื้นที่การระบาดรุนแรง 692 ไร่ และพื้นที่การระบาดน้อยถึงปานกลาง 11,989 ไร่
“ส่งผลให้ราคามะพร้าวผลแห้งคละที่เกษตรกรขายได้ ปี 2567 เฉลี่ยเดือน ม.ค. - พ.ย. (สัปดาห์ที่1) เฉลี่ยอยู่ที่ 1,101บาท/ร้อยผล เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีราคาเฉลี่ย 756 บาท/ร้อยผล เพิ่มขึ้น45.67% โดยช่วงผลผลิตออกมาสู่ตลาดมากของมะพร้าวผลแก่ อยู่ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.”
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการประกาศเตือนให้เกษตรกรเฝ้าระวังการระบาดของโรคและแมลงศัตรูมะพร้าว เช่น แมลงดำหนาม หนอนหัวดำและด้วงแรดมะพร้าว อีกทั้งยังได้ส่งเสริมการควบคุมศัตรูมะพร้าวอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้ศัตรูทางธรรมชาติในการกำจัด พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการใช้วิธีการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) เพื่อเพิ่มพูนความรู้และสร้างความเข้าใจในการจัดการศัตรูมะพร้าวอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ยังมีการติดตามและประเมินสถานการณ์ประชากรของศัตรูมะพร้าวในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอรวมถึงการสำรวจและติดตามสถานการณ์การระบาดของศัตรูมะพร้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรสามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ในการบริหารจัดการผลผลิตมะพร้าวให้มีความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน เพื่อลดผลกระทบต่อราคามะพร้าวในตลาด และให้ความสำคัญในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าผลผลิตจะเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกน้อย ”
สำหรับ หนอนหัวดำ พบพื้นที่ระบาด 27 จังหวัด (ณ 30 ต.ค.67) ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี สมุทรสาคร นครศรีธรรมราช ตราด สงขลา ชุมพร นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา สตูล ภูเก็ต ปัตตานี กระบี่ พังงา จันทบุรี สมุทรปราการ ปราจีนบุรี สระแก้ว นราธิวาส สุรินทร์ ชัยภูมิ ระยอง และ ราชบุรี
แมลงดำหนาม พบพื้นที่ระบาด 23 จังหวัด (ณ 30 ต.ค.67) ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ชลบุรี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี เพชรบุรีสตูล สงขลา ตราด กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง สมุทรสงคราม จันทบุรี ปราจีนบุรี สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ระยอง สมุทรปราการ สระแก้ว และนครราชสีมา
ข้อมูลจากกรมศุกากรระบุว่า การส่งออกมะพร้าวเดือนพ.ค. 2567 มูลค่า 527 ล้านบาทต่ำสุดในรอบ 40 เดือนและหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้วยาวนาน
ด้านสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองหนานหนิง ประเทศจีน ระบุว่า มะพร้าวของไทยมีคุณภาพดี รสชาติหวานหอม มีเอกลักษณ์ นอกเหนือจากคุณประโยชน์จากแร่ธาตุและวิตามิน ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่รักสุขภาพซึ่งเป็นเทรนด์ในปัจจุบันหลังยุคการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในตลาดจีน ปัจจุบันประเทศไทยยังเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่ส่งออกมะพร้าวเข้าสู่ประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม หลังจากจีนให้อนุญาตนำเข้ามะพร้าวของเวียดนามอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2567 เป็นต้นไป มะพร้าวเวียดนามอาจเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของมะพร้าวไทยในตลาดจีน เนื่องจากเวียดนามมีความได้เปรียบด้านระยะทางขนส่งไปจีนใกล้กว่า ปริมาณผลผลิตสูง และราคาจำหน่ายถูกกว่า ปัจจุบันตัวเลขจากแหล่งข่าวระบุว่า ผลผลิตมะพร้าวเวียดนามอยู่ที่ 2 ล้านตัน คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 2.1-2.3 ล้านตันในปี 2573
ทั้งนี้ คงทำให้การนำเข้ามะพร้าวเวียดนามของจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม มะพร้าวไทยได้ชื่อเสียงที่ตลาดจีนแล้วและมีภาพลักษณ์ที่ดี โดยเฉพาะเป็นมะพร้าวน้ำหอม ดังนั้น หน่วยงานทางการและองค์การที่เกี่ยวข้องของไทย อาจต้องยกระดับการขยายพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าวไทย และรักษาคุณภาพและมาตรฐานตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางจำหน่าย และส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของมะพร้าวไทยในตลาดจีน เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีนและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดจากประเทศคู่แข่งต่อไป
สำหรับมะพร้าวแบ่งเป็น 3 ประเภท ตามวัตถุประสงค์การใช้ ประโยชน์ ดังนี้ 1. มะพร้าวอุตสาหกรรม(มะพร้าวแกง) ได้แก่ พันธุ์ที่ ปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวผลแก่ 2. มะพร้าวเพื่อบริโภคผลสด ได้แก่ มะพร้าว น้ำหอม มะพร้าวน้้าหวาน และ 3. มะพร้าวผลิตน้ำตาล







