ประเทศไทยต้องใช้เอไอ (AI) ติดเครื่องเศรษฐกิจ

ประเทศไทยต้องใช้เอไอ (AI) ติดเครื่องเศรษฐกิจ

อาทิตย์ที่แล้วสภาพัฒน์ปรับประมาณเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือร้อยละ 2.0 ถึง 3.0 ต่อปี ซึ่งตํ่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ชี้ชัดว่าเศรษฐกิจเรายังย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน ขณะที่โลกทั้งโลกกําลังตื่นเต้นกับศักยภาพของ AI 

AI เทคโนโลยี คือ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence ที่จะยกระดับผลิตภาพการผลิตและขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจให้สูงมากขึ้น 

ผู้ทํานโยบายบ้านเราก็ควรต้องคิดในแนวนี้ คือทําอย่างไรที่จะใช้ AI แก้ปัญหาโครงสร้างและติดเครื่องหรือ Jump start การขยายตัวของเศรษฐกิจ นี่คือประเด็นที่จะเขียนวันนี้

อัตราการขยายตัวปัจจุบันที่ร้อยละ 3 ตํ่ากว่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 4.5 ช่วง 24 ปีหลังวิกฤติปี 40 ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 5 ของกลุ่มประเทศอาเซียน และตํ่ากว่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 7 ที่เศรษฐกิจไทยทำได้ช่วง 25 ปีก่อนปี 40 

สรุปคือเศรษฐกิจไทยขยายตัวลดลงตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมาจากเฉลี่ยร้อยละ 7 ต่อปี เหลือร้อยละ 4.5 และเหลือร้อยละ 3 สะท้อนความสามารถในการผลิตของประเทศและความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนที่ลดลงและปัญหาโครงสร้างที่เศรษฐกิจมี

ถ้าจะถามว่าปัญหาเศรษฐกิจประเทศไทยขณะนี้อันไหนเร่งด่วนสุดและต้องรีบแก้ไข คําตอบก็น่าจะเป็น 

1.เศรษฐกิจเราพึ่งการท่องเที่ยวมากเกินไป ต้องสร้างความหลากหลายในการหารายได้ของประเทศ 

2.สังคมสูงวัยนําไปสู่การขาดแคลนแรงงานและเพิ่มรายจ่ายด้านสาธารณสุข 

3.ความเหลื่อมลํ้าและความยากจนทำให้คนไทยส่วนใหญ่ขาดโอกาส 

4.คุณภาพการศึกษาและทักษะแรงงานที่ไม่ตรงกับที่เศรษฐกิจต้องการ 

5.ขาดโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเติบโต เช่นโลจิสติกส์และดิจิตอลทำให้เศรษฐกิจมีต้นทุนสูงแข่งขันไม่ได้ 

6.ธรรมาภิบาลและคอร์รัปชัน เป็นผลจากระบบราชการที่ไม่มีประสิทธิภาพ กระทบความไว้วางใจของนักลงทุน

นี่คือหกปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข เพื่อปลดปล่อยพลังทางเศรษฐกิจของประเทศ นําเศรษฐกิจไปสู่การเติบโตที่ดีขึ้น

 การแก้ไขต้องมาจาก 

(1) ภาวะผู้นำของรัฐบาลที่ต้องผลักดันการแก้ปัญหา 

(2) มีความรู้ในสิ่งที่ต้องทำคือรู้ว่าจะแก้ปัญหาอะไรอย่างไร 

(3) มีเครื่องมือที่จะใช้แก้ไขปัญหา ซึ่งในสองข้อหลัง คือความรู้กับเครื่องมือ เป็นสิ่งที่ AI เทคโนโลยีสามารถช่วยได้

AI คือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่สามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่และให้คําตอบที่จะเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหา

AI จึงเหมือนเป็นที่ปรึกษาหรือเพื่อนที่รอบรู้ที่จะให้คําแนะนำ เช่น รื้อหรือจัดใหม่กระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ทรัพยากร นำไปสู่การลดต้นทุน การบริหารจัดการที่ดีขึ้นของธุรกิจ การเติบโตของบริษัทและเศรษฐกิจ 

ที่สำคัญ AI เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน จึงมีพลังมากที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับประเทศและเศรษฐกิจโลก

ตัวอย่างเช่นในกรุงเทพมหานคร เรามีระบบขนส่งมวลชนที่เป็นระบบราง เช่น BTS MRT อยู่สิบสาย เราอาจตั้งคำถามกับ AI ว่าจะปรับปรุงระบบที่มีอยู่ให้ดีขึ้นได้อย่างไรเพื่อให้เกิดการให้บริการประชาชนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและทั่วถึง 

AI ก็คงจะให้คําตอบทั้งในแง่การเชื่อมต่อระบบรางต่างๆ ที่ควรมี สถานีใหม่ที่ควรสร้าง ระบบตั๋วที่จะใช้ร่วมกัน และราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรม เป็นคําตอบที่ตรงไปตรงมา ตามหลักวิชาและข้อเท็จจริง ที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

สําหรับระบบเศรษฐกิจ หัวใจของการสร้างการเติบโตคือยกระดับผลิตภาพการผลิตของประเทศ หรือ Productivity หมายถึงผลผลิตหรือ output ที่เกิดจากการใช้ปัจจัยการผลิตหรือ input หนึ่งหน่วย

ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำคือใช้ AI เพิ่มผลิตภาพการผลิตของประเทศและแก้ปัญหาโครงสร้างที่เศรษฐกิจมี

ในบทความธนาคารโลกชื่อ Artificial Intelligence (AI) can help developing economies diversify หรือ AI สามารถช่วยประเทศกําลังพัฒนาเพิ่มความหลากหลายในการผลิต บทความเสนอการใช้ AI เพื่อยกระดับการเติบโตของเศรษฐกิจเป็น สามขั้นตอน

หนึ่ง ศึกษาและตัดสินใจว่าเศรษฐกิจมีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ (Comparative Advantage) ในการผลิตสินค้าประเภทไหน คือสินค้าที่ประเทศผลิตได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ จากทรัพยากรและทักษะที่มีอยู่ 

ซึ่งกรณีประเทศเรา ความได้เปรียบน่าจะอยู่ที่ ภาคเกษตรและธุรกิจการเกษตร การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมรถยนต์ อีเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ การเเพทย์และบริการสาธารณสุข พลังงานทางเลือก และ โลจิสติกส์และการค้า พิจารณาจากตำแหน่งที่ตั้งของประเทศ นี่คือสาขาเศรษฐกิจที่มีศักยภาพที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศ

สอง นํา AI เทคโนโลยีมาใช้ในสาขาเศรษฐกิจเหล่านี้เพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิต เช่น เกษตรแม่นยําโดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลอากาศ นํ้า การใช้ปุ๋ยและสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น สินค้าบรรจุหีบห่อ เชื้อเพลิงชีวภาพ และเกษตรธรรมชาติ 

ใช้ AI ศึกษาแนวโน้มและรสนิยมนักท่องเที่ยวเพื่อนําไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (Eco-tourism) ใช้ AI ปฏิรูปกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนและสร้างสินค้าใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมสีเขียว ใช้ AI ในการให้บริการทางการแพทย์ เช่นการรักษา และใช้ AI สร้างการใช้พลังงานทางเลือกจากลมและแสงแดดในต้นทุนที่ตํ่าเป็นต้น

สาม สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จะส่งเสริมความพร้อมของประเทศที่จะใช้ AI เทคโนโลยีในวงกว้าง เพื่อให้เกิดการนําไปปฏิบัติใช้ ซึ่งประเทศเราปี 2021 อยู่อันดับ 52 ของโลก ตามหลัง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และ มาเลเซีย 

เน้นทั้งการศึกษาอบรมให้ความรู้ AI ในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ยกระดับความรู้และทักษะของแรงงานเรื่อง AI ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ AI hubs เพื่อสร้างนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้ AIในภาคธุรกิจ และสำคัญสุดคือขยายระบบ internet ความเร็วสูงให้ทั่วถึงทั้งประเทศในราคาที่เข้าถึงได้

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความฝันแต่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เป็นศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและการบ้านทางนโยบายที่รออยู่ ที่จะดึงเศรษฐกิจออกจากกับดักการขยายตัวตํ่าโดยใช้พลังของเทคโนโลยี ภาคธุรกิจ ประชาชน และเปลี่ยนประเทศและเศรษฐกิจไทยไม่เหมือนเดิม

ประเทศไทยต้องใช้เอไอ (AI) ติดเครื่องเศรษฐกิจ

คอลัมน์ เศรษฐศาสตร์บัณฑิต

ดร.บัณฑิต นิจถาวร

ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

[email protected]