ตลาดทุเรียนแดนมังกรร้อนแรง"ไทย"เสี่ยงหลุดแชมป์ส่งออกไปจีน

ตลาดทุเรียนแดนมังกรร้อนแรง"ไทย"เสี่ยงหลุดแชมป์ส่งออกไปจีน

ตลาดทุเรียนจีนปี 67 แข่งขันสูง เผย เวียดนามเร่งเครื่องส่งออกทุเรียนไปจีนพิ่มขึ้น เผยไตรมาส 1ปี 67 ส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 105% อยู่ที่ 36,800 ตัน เบียดไทยตกอันดับ 2 พาณิชย์แนะรักษาคุณภาพทุเรียน พร้อมสร้างแบรนด์ให้ครองใจผู้บริโภคจีน รักษาแชมป์ส่งออกทุเรียนในตลาดจีน

ประเทศจีนถือเป็นตลาดบริโภคทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทุเรียนได้กลายเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีปริมาณการนำเข้าสูงสุดของจีนตลอดหลายปีที่ผ่านมา  จากข้อมูลที่เผยแพร่ในเว็ปไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า  ทุเรียนถือว่าเป็นผลไม้ที่มีราคาสูงในตลาดจีนและเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง จากสถิติในปี 2566 จีนนำเข้าทุเรียนสูงเป็นอันดับหนึ่งของมูลค่าการนำเข้าผลไม้ของจีน โดยมีมูลค่าถึง 6,699 ล้านดอลลาร์เติบโต  66.16 % จากปีก่อน มีปริมาณการนำเข้าถึง 1.42 ล้านตัน เติบโต 72.78 % จากปีก่อน โดยทั้งปริมาณและมูลค่าเติบโตเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบจากปี 2563

ปริมาณนำเข้าจากคู่ค้าหลัก ได้แก่ ไทย  65.19%  และ เวียดนาม  34.55 %โดยผลิตของไทยจะออกสู่ตลาดช้ากว่าเวียดนาม ส่งผลให้ตัวเลขการนำเข้าทุเรียนจากประเทศเวียดนามสูงกว่าไทยเพียงบางช่วงเท่านั้น แต่โดยภาพรวมทั้งปี 2566 ไทยยังคงเป็นแชมป์การส่งออกทุเรียนในตลาดจีน

อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสที่ 1ปี 67  เวียดนามส่งออกทุเรียนไปจีนเพิ่มขึ้น 105% อยู่ที่ 36,800 ตัน เมื่อเทียบกับที่ไทยส่งออกในช่วงเวลาเดียวกันเพียง 17,900 ตันเนื่องจากผลผลิตทุเรียนไทยที่ออกสู่ตลาดช้า สภาพอากาศร้อนจัด. ซึ่งต่างจากในเดือนมี.ค.66 ที่ปริมาณทุเรียนออกสู่ตลาดมาก  คาดว่าทั้งปี 2567 เวียดนามสามารถส่งออกทุเรียนไปจีนอยู่ที่ 5 แสนตัน ในขณะที่ไทยส่งออกอยู่ที่ 8 แสนตัน ลดลงเกือบ 2 แสนตัน

ปัจจุบันจีนกำลังอยู่ในช่วงการทดลองปลูกทุเรียน ผนวกกับการแข่งขันจากเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามที่กำลังมาแรง จึงคาดว่าตลาดการส่งออกทุเรียนทั่วโลกจะร้อนแรงยิ่งขึ้น และต้นทุนการส่งออกทุเรียนของเวียดนามมาถึงจีนที่ถูกกว่าไทย จึงจะมีความได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคา เมื่อเปรียบเทียบไทยกับประเทศผู้ผลิตอื่นๆ อาทิ เวียดนาม ไทยมีความได้เปรียบในด้านอุปทานที่แข็งแกร่ง คุณภาพเป็นที่ยอมรับ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคจีนอย่างมาก จึงคาดว่าในระยะสั้นนี้ทุเรียนไทยจะยังเป็นผู้นำของตลาดทุเรียนนำเข้าของจีน

“ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์   กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าวประเทศจีน ว่า การจำหน่ายทุเรียนในตลาดจีนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเกือบทศวรรษที่ผ่านมานี้ โดยที่ผ่านมาพบว่าในปี 2558 มีการจำหน่ายทุเรียนเฉพาะในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการจำหน่ายทุเรียนตามท้องถนน และร้านขายผลไม้ในซอยเล็ก ๆ ตลอดจนแผงลอยตามข้างทางจนทุเรียนเป็นผลไม้ที่ชาวจีนส่วนใหญ่รู้จักเป็นอย่างดี การจำหน่ายทุเรียนในตลาดจีนส่วนใหญ่เป็นทุเรียนสด

อย่างไรก็ดี การจำหน่ายผลไม้สดมีปัญหาด้านระยะเวลาการจัดเก็บที่สั้น ยากต่อการขนส่ง และราคาของผลไม้สดจะค่อนข้างมีความผันผวนในตลาด ทำให้ผู้ประกอบการจึงมีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์อื่นของทุเรียนเพื่อเพิ่มยอดขายและกำไรให้มากขึ้น โดยมีการนำไปแปรรูปในอุตสาหกรรมอาหารต่างๆ อย่างแพร่หลาย เช่น ขนมบัวลอย ขนมเค้ก ขนมปัง ไอศกรีม พิซซ่า และเครื่องดื่ม เป็นต้น

นอกจากนี้ ปัจจุบันจีนยังสามารถปลูกทุเรียนได้บ้างแล้ว แต่ยังคงมีปริมาณผลผลิตน้อยมาก จึงยังจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจีนมีปริมาณความต้องการบริโภคทุเรียนคิดเป็น  19 % ของความต้องการบริโภคทุเรียนทั่วโลก

“ การผ่อนคลายกฎหมายนำเข้าของจีนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่อนุญาตนำเข้าทุเรียนสดจากเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ประกอบกับความพยายามในการปลูกทุเรียนจีน จึงทำให้การแข่งขันของตลาดทุเรียนจีนจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น”นายภูสิต กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจึงต้องให้ความสำคัญต่อแนวโน้มการแข่งขันในอุตสาหกรรมทุเรียนที่ขณะนี้มีคู่แข่งมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมการพัฒนา การลดต้นทุนผลิต และรักษามาตรฐานคุณภาพทุเรียนไทย การสร้างมูลค่าเพิ่ม การแปรรูปทุเรียนที่สอดคล้องกับความต้องการในตลาดจีน รวมถึงการสร้างแบรนด์ทุเรียนไทยที่มีคุณภาพสูง การประชาสัมพันธ์ความเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนไทย ตลอดจนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การขยายช่องทางในการทำตลาด และพัฒนาช่องทางการขนส่งที่หลากหลาย เป็นต้น เพื่อให้ทุเรียนไทยสามารถอยู่รักษาตลาดจีนให้เป็นที่นิยมได้อย่างยาวนานและยังคงครองแชมป์ผู้นำทุเรียนในตลาดจีน