‘แพทองธาร’ ย้ำ ธปท.เป็นอุปสรรคฟื้นเศรษฐกิจ กดดันรัฐบาลใช้แต่นโยบายการคลัง

‘แพทองธาร’ ย้ำ ธปท.เป็นอุปสรรคฟื้นเศรษฐกิจ กดดันรัฐบาลใช้แต่นโยบายการคลัง

“แพทองธาร” ย้ำ ธปท.เป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส่งผลให้ใช้นโยบายการคลังอย่างเดียว ดันหนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลต้องจัดงบประมาณขาดดุล

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศทิศทางการทำงานในงาน ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย สำนักงานใหญ่ การจัดงานครั้งนี้เป็นการแสดงวิสัยทัศน์และความคืบหน้านโยบาย ของพรรคเพื่อไทย หลังจากจัดตั้งรัฐบาลเข้าสู่เดือนที่ 9 พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กฎหมายพยายามจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอิสระจากรัฐบาล โดยประเด็นนี้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะนโยบายการคลังถูกใช้งานข้างเดียวอย่างหนัก จนทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้นทุกปี จากการที่รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุล
ทั้งนี้ ในกรณีที่นโยบายการเงินที่บริหารโดย ธปท.ไม่ยอมเข้าใจและร่วมมือ จะทำให้ประเทศไทยจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ลงมาได้  

‘แพทองธาร’ ย้ำ ธปท.เป็นอุปสรรคฟื้นเศรษฐกิจ กดดันรัฐบาลใช้แต่นโยบายการคลัง

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในมิติทางเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลเริ่มต้นด้วยการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพราะเงินถูกดูดออกจากระบบไปมาก จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน โดยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท จะทำให้ทุกคนต้องปรับตัว เพิ่มผลผลิตจากความพอกินของพนักงาน 

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะผลักดันเศรษฐกิจในทุกมิติ ไม่ใช่แค่เติมเงินและเพิ่มค่าแรง แต่รวมไปถึงเม็ดเงินใหม่จากต่างประเทศจะเข้ามาจากการลงทุนและการสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน โดยการนำของนายกรัฐมนตรี

“ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลใช้ความพยายามในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ เพื่อแก้ปัญหาที่ยากและซับซ้อน และก้าวเดินต่อในทุกมิติ เพราะเราเสียเวลาและโอกาสไปถึงเกือบ 2 ทศวรรษจากการรัฐประหาร  เรามั่นใจว่าเราทำได้ และจะทำให้ได้คะแนนเต็ม 10 ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า"

‘แพทองธาร’ ย้ำ ธปท.เป็นอุปสรรคฟื้นเศรษฐกิจ กดดันรัฐบาลใช้แต่นโยบายการคลัง

รายงานข่าวระบุว่าในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้กดดันให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ ธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากปัจจุบันที่อยู่ที่ 2.50% โดยล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กดดันก่อนการประชุม กนง.เพียง 1 วัน เพื่อให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25-0.50% ในการขณะที่การประชุม กนง.วันที่ 10 มี.ค.2567 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25%

‘แพทองธาร’ ย้ำ ธปท.เป็นอุปสรรคฟื้นเศรษฐกิจ กดดันรัฐบาลใช้แต่นโยบายการคลัง

หลังจากนั้นวันที่ 23 เม.ย.2567 นายกรัฐมนตรีได้เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารพาณิชย์ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อขอให้มีแนวทางช่วยเหลือเรื่องดอกเบี้ยกับประชาชนและเอสเอ็มอี ประกอบด้วย น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์