ครม.ไฟเขียว เก็บภาษีโทเคนดิจิทัล 15% เก็บครั้งเดียว ไม่รวมภาษีบุคคลธรรมดา

ครม.ไฟเขียว เก็บภาษีโทเคนดิจิทัล 15% เก็บครั้งเดียว ไม่รวมภาษีบุคคลธรรมดา

ครม.ไฟเขียว เก็บภาษีโทเคนดิจิทัล 15% เก็บครั้งเดียวจากส่วนต่างกำไรตอนขาย ไม่ต้องรวมภาษีบุคคลธรรมดา รัฐสูญเสียรายได้ 50 ล้าน รับการระดมทุน 1.85 หมื่นล้านบาทในปีนี้

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ) พ.ศ.... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token)) 

ร่างพระราชกฤษฎีกาที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไร (เงินปันผล) หรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้รับจากการถือหรือครอบครองโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน และได้หักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ ที่จ่าย (ในอัตราร้อยละ 15) ไว้แล้ว ไม่ต้องนำเงินได้ส่วนดังกล่าวไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีก สำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไรหรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อยกระดับการกำกับดูแลโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกับหลักทรัพย์ รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการระดมทุน ตลอดจนสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล

"สาระสำคัญคือ ให้เก็บภาษีจากกำไรจากการเทรดหักภาษี 15% ครั้งเดียว โดยไม่ต้องนำเป็นรายได้ในการคำนวณรายได้ภาษีประจำปีอีก โดยเป็นการหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% จากกำไรส่วนต่าง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ"

โดยกระทรวงการคลัง คาดว่าในปี 2567 จะมีการระดมทุนผ่านการออกโทเคนดิจิทัลกว่า 1.85 หมื่นล้านบาท 

ครม.ไฟเขียว เก็บภาษีโทเคนดิจิทัล 15% เก็บครั้งเดียว ไม่รวมภาษีบุคคลธรรมดา

 

ทั้งนี้คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีละประมาณ 50 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจมีทางเลือกในการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเพิ่มเติมจากการระดมทุนด้วยเครื่องมือดั้งเดิม (ตราสารหนี้และตราสารทุน) อันจะส่งผลดีต่อการระดมทุน การลงทุน และการจ้างงานในประเทศ ตลอดจนช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการระดมทุนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์คาดการณ์ว่า ในปี 2567 จะมีการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนถึง 18,500 ล้านบาท

"การเว้นภาษีนี้จะทำให้ รัฐสูญเสียรายได้ 50 ล้านบาท แต่จะช่วยส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของการระดมทุนด้วยเงินดิจิทัลต่อไปในอนาคต"  นายคารม กล่าว

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์