ราคามันสำปะหลังทุบสถิติทำนิวไฮ แตะ 3.90 บาทต่อกก.หลังความต้องการเพิ่ม

ราคามันสำปะหลังทุบสถิติทำนิวไฮ แตะ 3.90 บาทต่อกก.หลังความต้องการเพิ่ม

กรมการค้าภายใน เผย ราคามันสำปะหลังพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ล่าสุดราคาแตะ 3.90 บาทต่อกก.หลังความต้องการเพิ่ม แต่ผลผลิตลดจากโรคใบด่าง นัดเกษตรกร พร้อม 4 สมาคมมันหารือ หาทางออก ส่วนข้าวเปลือก ราคาดีไม่แพ้กัน เตรียมเชื่อมโยงปุ๋ยถูก เฟส 2 ช่วยลดต้นทุนเกษตรกร

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคามันสำปะหลัง ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 3.65 บาท และสูงสุด 3.90 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากตลาดมีความต้องการเพิ่มขึ้น และผลผลิตปีนี้ คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 27 ล้านตัน จากปีที่แล้ว 30 ล้านตัน ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคใบด่าง ทำให้ผลผลิตลดลง และล่าสุดภาคเอกชนได้ไปสำรวจ ก็มีแนวโน้มที่ผลผลิตจะลดลงจาก 27 ล้านตันด้วย ขณะที่ความต้องการใช้อยู่ที่ 42 ล้านตัน ทำให้ยังมีปัญหาขาดแคลน

“กรมจะนัดประชุมร่วมกับ 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง และตัวแทนเกษตรกร เพื่อมาหารือกันเพื่อหาทางออก เพราะถ้าปล่อยไว้ ก็จะไม่เป็นผลดี หากผลผลิตลดลงเรื่อย ๆ จะกระทบทั้งรายได้เกษตรกร กระทบทั้งการส่งออก ทำให้ประเทศเสียโอกาส แล้วยิ่งทุกวันนี้ ไทยเป็นผู้ส่งออกมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์รายใหญ่ของโลก และแป้งมันสำปะหลังไทย ก็ดีที่สุดในโลก ถ้ามีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ จะมีปัญหาตามมา จึงต้องมาเร่งแก้เรื่องใบด่าง ต้องพัฒนาพันธุ์”

ราคามันสำปะหลังทุบสถิติทำนิวไฮ แตะ 3.90 บาทต่อกก.หลังความต้องการเพิ่ม

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า สำหรับข้าวเปลือก ราคาก็ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ เดือนมี.ค.2567 ราคา 144,850 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับ มี.ค.2566 ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 14,600 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 13% ข้าวเปลือกปทุมธานี ราคา 14,650 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 36% ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 12,500 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 26% และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 13,300 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 13%

 ส่วนราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อยู่ที่ กก.ละ 9.63 บาท สูงสุด 9.80 บาท ราคาหน้าโรงงาน กก.ละ 10.34 บาท ปาล์มน้ำมัน กก.ละ 5.80 บาท สูงสุด กก.ละ 6.20 บาท น้ำมันปาล์มขวด 45 บาท แต่ในห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า จัดโปรโมชัน ขวดละ 43-44 บาท

สำหรับหมูเป็น เฉลี่ย กก.ละ 64.10 บาท หมูเนื้อแดง เฉลี่ย กก.ละ 128.18 บาท ซึ่งยังคงขอความร่วมมือผู้บริโภคให้ช่วยกันบริโภคเนื้อหมู เพราะขณะนี้ผลผลิตส่วนเกินยังคงมีอยู่ ไก่มีชีวิต กก.ละ 44 บาท ไก่น่องติดสะโพก กก.ละ 82.1 บาท ไก่เนื้อน่อง กก.ละ 79.1 บาท ไก่เนื้อสะโพก กก.ละ 86.25 บาท ไก่เนื้ออก กก.ละ 76.25 บาท ไข่ไก่ คละหน้าฟาร์ม เฉลี่ยฟองละ 3.40 บาท เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 3.86 บาท ปลานิล กก.ละ 75.50 บาท ปลาทับทิม กก.ละ 104 บาท ปลาดุกอุย กก.ละ 75.80 บาท กุ้งขาว 70ตัว กก.ละ 186 บาท

ขณะที่ผักสด มีราคาเพิ่มขึ้นและลดลง แต่หลายตัวสูงขึ้นจากการเข้าสู่หน้าร้อน โดยผักคะน้า กก.ละ 34.20 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 44.50 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 26.50 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 29.90 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 31.40 บาท และผักชี กก.ละ 79.40 บาท

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมกำลังหารือกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย ดำเนินโครงการเชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกให้แก่เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร เฟส 2 หลังจากเฟส 1 จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.2567 ที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยเหลือและช่วยลดต้นทุนให้กับกษตรกร

โดยจะลดราคาปุ๋ยไม่ต่ำกว่าเดิม คือ กระสอบละ 10-50 บาท เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2567 และประเมินผลภายใน 3 เดือน ส่วนเฟสแรก มีการนำปุ๋ยมาลดราคา 3.1 ล้านกระสอบ จำนวน 64 สูตร มีการสั่งซื้อไปแล้ว 1.131 ล้านกระสอบ ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนได้ 216 ล้านบาท