พาณิชย์ จับมือ ดีอี เปิดจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า”ส่งพัสดุทั่วประเทศ

พาณิชย์ จับมือ ดีอี เปิดจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า”ส่งพัสดุทั่วประเทศ

“พาณิชย์” ผนึกกำลัง “กระทรวงดีอีเอส” เปิดจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า” ดันร้านธงฟ้ากว่า 20,000 ร้านทั่วประเทศ เป็นจุดบริการ Drop Off  ส่งสินค้าให้กับไปรษณีย์ไทย ดีเดย์ เม.ย.นี้ คาดเพิ่มรายได้ร้านธงฟ้าเฉลี่ยเดือนละ 1,500 บาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม MOU ความร่วมมือโครงการไปรษณีย์ไทย @ธงฟ้า ระหว่างกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อขยายจุดให้บริการของไปรษณีย์ไทยสู่ร้านธงฟ้ากว่า 20,000 สาขาทั่วประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในการเพิ่มช่องทางในการดรอปหรือส่งสินค้าผ่านร้านธงฟ้าและลดภาระค่าใช้จ่าย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดยใช้กลไกเครือข่ายร้านธงฟ้าที่มีอยู่ทั่วประเทศให้เป็นจุดดรอปพัสดุ (Drop Off) ของไปรษณีย์ ตามแนวทางการใช้ศักยภาพและใช้จุดแข็งของกันและกันในการขับเคลื่อนและสร้างโอกาสให้กับร้านธงฟ้า เกษตรกร ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) และไปรษณีย์ไทยเองและ ในส่วนของเกษตรกร ผู้ประกอบการ SMEs ร้านค้าออนไลน์ และประชาชนทั่วไป จะได้ประโยชน์ในการส่งสินค้าที่สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น เพราะร้านธงฟ้าอยู่ใกล้บ้าน ลดข้อจำกัดในการเดินทางไปไปรษณีย์ไทย และยังสามารถเลือกเวลาส่งสินค้าได้ด้วย ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนที่เป็นคนตัวเล็ก เจ้าของร้านค้าธงฟ้า ซึ่งจะเป็นเครือข่ายประชาชนให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ใช้ไปรษณีย์ไทยและร้านธงฟ้าเพิ่มรายได้และลดภาระ ทั้งนี้ร้านจะมีรายได้เพิ่มเติมเฉลี่ยเดือนละ 1,500 บาท

พาณิชย์ จับมือ ดีอี เปิดจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า”ส่งพัสดุทั่วประเทศ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า โครงการไปรษณีย์ @ธงฟ้า เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงดีอีทำงานเชิงรุก พี่น้องประชาชนจะได้รับความสะดวกสบายมาบริการให้ในเขตหมู่บ้านประหยัดเวลาประหยัดค่าใช้จ่าย ไปรษณีย์ไทยจะมีสาขาเพิ่มอีก 20,000 สาขาทันทีในการรับส่งสินค้า ช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า สำหรับกรมการค้าภายใน ร้านธงฟ้าก็ได้รับประโยชน์ นอกจากรับส่งของยังสามารถขายของในร้านตัวเองได้อีก ในอนาคตอาจมีการต่อยอดในการขนส่งสินค้าภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นซึ่งได้ประโยชน์ทุกฝ่าย

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า โมเดลการพัฒนาร้านธงฟ้า 20,000 แห่ง ให้เป็นจุดให้บริการงานไปรษณีย์ในลักษณะดรอปออฟในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางสนับสนุนภาคเศรษฐกิจ สังคม ชุมชนให้มีการเติบโตในหลากหลายมิติ ตั้งแต่ในส่วนของร้านธงฟ้าที่สามารถสร้างรายได้โดยไม่ต้องลงทุน และสามารถสร้างเครือข่ายกับธุรกิจต่าง ๆ ได้มากขึ้น ในส่วนของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่มีสัญญากับไปรษณีย์ไทยจะได้รับความสะดวกในการดรอปสิ่งของที่จุดให้บริการใกล้บ้าน ทำให้ดรอปง่าย สร้างรายได้ เครือข่ายครอบคลุมด้วยคุณภาพบริการตอบโจทย์ธุรกิจ ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีระบบขนส่งมีโครงสร้างพื้นฐานระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแรงพร้อมสนับสนุนประชาชนพ่อค้าแม่ค้าทั่วประเทศ

พาณิชย์ จับมือ ดีอี เปิดจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า”ส่งพัสดุทั่วประเทศ

สำหรับจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า” ในระยะแรก จะเปิดเป็นจุดดรอปพัสดุ ผู้ฝากส่งเพียงเตรียมการฝากส่งล่วงหน้า ซึ่งผู้ให้บริการร้านธงฟ้าสแกนบาร์โค้ดหน้ากล่องผ่านแอปพลิเคชันเพื่อรับสิ่งของเข้าระบบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จะเข้ามารับพัสดุไปดำเนินการเพื่อส่งต่อให้ผู้รับปลายทาง และระบบจะคำนวณรายได้ให้ร้านธงฟ้า โดยจะเริ่มให้บริการในเดือนเม.ย.  2567 ตามเวลาทำการของร้านธงฟ้าแต่ละแห่ง ส่วนระยะต่อไปจะเปิดให้บริการทั้งจุดรับพัสดุและเป็นจุดรอจ่ายพัสดุให้ผู้รับปลายทาง ทั้งนี้ จากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายรวมมากกว่า 50,000 จุดทั่วประเทศ

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ร้านธงฟ้าเป็นร้านที่กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศถึงระดับตำบล เบื้องต้นเราคัดมา 20,000 ร้านค้า ซึ่งมีร้านธงฟ้าสนใจเข้าร่วมถึง 18,000 ร้านค้า สำหรับเฟสถัดไปเราจะมีการประเมินกันทุกเดือนและจะเคาะทุก 3 เดือน ซึ่งเราได้ดำเนินการตามนโยบายของนายภูมิธรรม อนาคตจะเอาสินค้าเกษตรมากระจายที่จุดนี้และอีกหลายสินค้า เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ต้องการให้ร้านธงฟ้าเป็นเครื่องมือในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และขยายโอกาส มุ่งเน้นให้พี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเราจะยกระดับร้านธงฟ้าที่เหลืออยู่และร้านที่มีความพร้อมให้อยู่กับยุคการค้าดิจิทัล เป็นการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับร้านธงฟ้าต่อไป