เจ้าสัว ชี้ ยุคเทคโนโลยีรุดหน้า คือโอกาสธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง

เจ้าสัว ชี้ ยุคเทคโนโลยีรุดหน้า คือโอกาสธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง

ธนินท์ ลั่น ยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วธุรกิจต้องทบทวนทุกขบวนการผลิต ต้นทุนถูกที่สุดหรือยัง ชี้มี ข้อมูลเยอะยิ่งได้เปรียบ ดันแจ้งเกิดเถ้าแก่น้อย เป็นโอกาสของธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ ซีพี เปิดเผยว่าการดำเนินงานของซีพี ยังยึดหลัก 3 ประโยชน์ คือ ประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน และองค์กร ซึ่งนำสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน แต่โลกเทคโนโลยีและธุรกิจที่มีอยู่ตลอดเวลา ทำให้ทั้งบริษัทและพนักงานต้องปรับตัว โดยต้องยอมรับนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งสุดท้ายจะเป็นประโยชน์ต่อตัวพนักงานเอง

ทั้งนี้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน ทำให้มีข้อมูลมากมายที่สามารถสืบค้นได้ง่ายและทันที ส่งผลให้ธุรกิจทำหากำไรจากส่วนต่างมากๆ ไม่ได้แล้ว เพราะการตั้งราคาทำให้คนรู้กันทั่วโลก เพราะผู้บริโภคสามารถสืบค้นข้อมูลและเปรียบเทียบราคาได้ ประกอบกับมีหลากหลายช่องทางเลือกซื้อ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์

 

เจ้าสัว ชี้ ยุคเทคโนโลยีรุดหน้า คือโอกาสธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง

ธุรกิจจึงต้องปรับตัวเพื่อรองรับ ซึ่งวิธีเหมาะสมคือการลดต้นทุนการผลิตให้มากที่สุด แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ อย่างเช่นกรณีของการบริหาร ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ต้องจับมือกับคู่ค้าร่วมกันวางแผนให้ลดต้นทุน เพื่อดึงส่วนที่ลดได้ผลักดันให้เป็นประโยชน์กับให้ลูกค้าให้ได้มากที่สุด ถ้าซีพีขายได้มาก คู่ค้าก็มีรายได้มากวิธีการนี้จะได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้ต้องชื่นชมผลิตภัณฑ์เถ้าแก่น้อย ที่บริหารจัดการได้สำเร็จ นอกจากจะวางจำหน่ายผลิตในเซเว่น-อีเลฟเว่น ได้แล้ว ยังสามารถส่งสินค้าจำน่ายในต่างประเทศได้มากถึง 51 ประเทศ เป็นเถ้าแก่น้อย แต่ไม่น้อยเหมือนชื่อ

“ผมชอบมากคำว่าเถ้าแก่น้อย ผมเลยพูดบ่อยและเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาส่งเสริมธุรกิจในปัจจุบัน เพราะจากข้อมูลต่างๆที่สามารถหาได้ง่ายนั้นเอื้อต่อการที่ทุกคนจะเป็นเถ้าแก่น้อยได้ โดยสามารถทำได้คนเดียวไม่ต้องใช้คนเยอะ เพราะมีเทคโนโลยีให้เลือกใช้ ทำให้ปัจจุบันมีเถ้าแก่น้อยเกิดขึ้นมากหมาย เมื่อเทียบกับ70 ปี ที่แล้วช่วงก่อตั้ง ซีพี มีไม่กี่คนที่จะขึ้นมาเป็นเถ้าแก่ได้ “

อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แต่การจะทำให้ประสบผลสำเร็จนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการดำเนินธุรกิจมีข้อมูลจำนวนมาก ต้องรวดเร็ว ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว ยังต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า รู้จักให้อภัย ธุรกิจจึงจะไปรอด ซึ่งหลังจากนี้ไป จะเป็นโอกาสของธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลางที่เคลื่อนไหวและตัดสินใจได้เร็ว ส่วนบริษัทขนาดใหญ่นั้นเคลื่อนไหวได้ยาก สิ่งที่ต้องทำคือทบทวนทุกขบวนการ ต้นทุนผลผลิตถูกที่สุดหรือยัง

“ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้ตอนนี้ธุรกิจที่คิดไม่ถึง เกิดขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งเป็นผลมาจากการรู้จักใช้ประโยชน์จากข้อมูล และยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกจำนวนมาก นักธุรกิจตัวเล็กจะสร้างอะไรได้อีกมากมาย โดยสามารถใช้เปิดธุรกิจได้เอง ไม่ต้องพึ่งผู้คนจำนวนมาก คนรุ่นใหม่จะเป็นตัวขับเคลื่อน ดังนั้นจึงต้องรับฟังและเรียนรู้จากคนรุ่นใหม่ให้มาก”

แต่ทั้งนี้ธุรกิจทั้งหลายที่เกิดขึ้น ยังต้องพึ่งพาการผลิตเป็นสำคัญ เนื่องจากไม่สามารถเสกสินค้าขึ้นมาได้ ตามด้วยการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ที่เสกขึ้นมาไม่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดรน จากการดำเนินการของ ห้างวอลมาร์ท ในรัฐอาร์คัน ซอ สหรัฐอเมริกา ที่ได้ใบอนุญาตให้ใช้โดรนบริการส่งสินค้าได้ พบว่าทำให้ต้นทุนการขนส่งลดลงถึง 3 เท่าและเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เป็นที่พึ่งพอใจ แต่การบริการยังไม่สามารถเปิดกว้างได้ในพื้นที่อื่น เพราะยังมีความเสี่ยงเรื่องภัยอันตราย

“ผมมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้มีความเข้าใจ และจะผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ดึงเงินเข้าประเทศให้ได้มากที่สุด แต่ต้องเปลี่ยนแปลงกฎหมายบางข้อที่เป็นอุปสรรค ดึงคนไทยจากต่างประเทศเข้ามาทำงาน เปิดโอกาสให้กับนักลงทุน มองว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาสร้างประโยชน์ ไม่ใช่เข้ามาใช้ประโยชน์ เปลี่ยนหลักสูตรการสอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จะทำให้ไทยพัฒนาได้เร็วขึ้น”