PM’s Export Award รางวัลแห่งเกียรติยศผู้ส่งออกไทย

PM’s Export Award  รางวัลแห่งเกียรติยศผู้ส่งออกไทย

รางวัล “สุดยอดผู้ส่งออกไทยดีเด่น ปี 67 “ ชูแนวคิด “ก้าวล้ำสู่สากล สร้างพลังสู่ความสำเร็จ” กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย ปี 66 ความสำเร็จผู้ส่งออกไทย เผย 37 ธุรกิจที่ได้รับรางวัล ในปี 65 สร้างรายได้จากการส่งออกเข้าประเทศ กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  ประกาศจัด Prime Minister’s Export Award 2024หรือ ‘โครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น’ ภายใต้แนวคิด“Forward  and  Beyond, The Power of Perfection : “ก้าวล้ำสู่สากล สร้างพลังสู่ความสำเร็จ” เพื่อเป็นการต้อนรับการก้าวสู่ ทศวรรษใหม่ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ก้าวสู่การเป็นผู้ส่งออกที่มีศักยภาพต่อไป

โดยรางวัล” Prime Minister’s Export Award” เป็นรางวัลสูงสุดของรัฐบาล ที่มอบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกของไทยเพื่อประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ส่งออกที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้รับรู้อย่าง
กว้างขวางในตลาดโลก

“พรวิช ศิลาอ่อน” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  กล่าวว่า แนวคิดการดำเนินงานปีนี้ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจและมุ่งมั่นเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยให้ได้เปรียบด้านการแข่งขันทางการค้า ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องของการส่งเสริม Soft Power ของไทยสู่สากล ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ดำเนินธุรกิจสอดรับกับเทรนด์ใหม่ของโลก

ทั้งนี้รางวัล PM’s Export Award  เริ่มมาในปี 2535 สมัยนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี มีเป้าหมายสนับสนุน และให้ความสำคัญแก่ผู้ส่งออกสินค้าและบริการที่มีผลงานดีเด่น มีการริเริ่มและพยายามบุกเบิกตลาดต่างประเทศภายใต้ชื่อทางการค้าของตนเองมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองจนเป็นทียอมรับในตลาดโลก

รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการที่มีส่วนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของประเทศโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเปลี่ยนจากภาคการผลิตสินค้ามาสู่ภาคบริการมากขึ้น โดยทุกๆปี นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้มอบรางวัลให้กับผู้ส่งออก

PM’s Export Award  รางวัลแห่งเกียรติยศผู้ส่งออกไทย

นับตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมามีผู้ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้นจำนวน 838 รางวัล จาก 294  บริษัท  ซึ่งปี 2567 นับเป็นครั้งที่ 31 แล้ว ซึ่ง รางวัลในปี 2567 มีจำนวน ถึง 48 รางวัล 9 สาขา อาทิ รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) รางวัลผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน  รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม เป็นต้น

นางสาวประอรนุช ประนุช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า  กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า  ได้รับโล่รางวัลและเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ จากนายกรัฐมนตรี สิทธิประโยชน์ด้านการเข้าร่วมกิจกรรมกรม โดยได้รับการพิจารณาเข้าร่วมเป็นลำดับแรก การเข้าร่วมกิจกรรม SMEs ProActive เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการที่รับรางวัล PM’s Award ได้เข้าร่วมกิจกรรมมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มจำนวนจาก 6 ครั้ง เป็น 8 ครั้ง ต่อกิจกรรม ในรอบการใช้สิทธิ์เข้าร่วม ในระยะเวลา 3 ปี ได้รับสิทธิ์การสัมภาษณ์พิเศษ (Exclusive Interview) ในฐานะของผู้ที่ได้รางวัลกับสื่อชั้นนำ ในปี 2568

สำหรับปีนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการเข้ารับรางวัล ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 16 เม.ย. 2567 มีเป้าหมายผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า 100 ราย มีเป้าหมายผู้ประกอบการได้รับรางวัล  48 รางวัล ทั้งนี้ในแต่ละปีมีผู้ส่งออกสนใจสมัครเฉลี่ย 100-150 ราย

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ pmaward.ditp.go.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2136 5226, 0 2507 8260 (ในวันและเวลาราชการ)และกำหนดจัดการพิจารณาตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐ และภาคเอกชน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในแต่ละสาขาต่าง ๆ ในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ค. 2567 และกำหนดจัดพิธีมอบรางวัลโดยนายกรัฐมนตรี ภายในเดือนส.ค. 2567 ณ ทำเนียบรัฐบาล

PM’s Export Award  รางวัลแห่งเกียรติยศผู้ส่งออกไทย

“รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น (PM’s Export Award) “ถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จสูงสุดถือสําหรับผู้ประกอบธุรกิจส่งออกทั้งสินค้าและบริการประเภทต่าง ๆ และเป็นความภาคภูมิใจในรางวัลที่ได้รับจากผู้นําประเทศเพิ่มความเชื่อมั่นต่อผู้นำเข้าและผู้ซื้อจากต่างประเทศในคุณภาพที่ได้มาตรฐานสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลเพื่อผู้ประกอบการไทยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในเวทีสากล

นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของประเทศในตลาดโลก ล่าสุดเมื่อปี 2566  ผู้ส่งออกที่ได้รับรางวัลจำนวน 37 บริษัท พบว่า มีส่วนในการสร้างรายได้เข้าประเทศในปี 2565 คิดเป็นมูลค่า 14,567.65 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 26.79 % จากปีก่อนหน้านี้